
เตารีดไอน้ำเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญที่ช่วยให้การรีดผ้าเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยประหยัดเวลาและแรงในการรีดผ้าให้เรียบเนียนได้โดยไม่ต้องออกแรงมาก โดยเฉพาะแบรนด์ Philips ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัย บทความนี้จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเตารีดไอน้ำ Philips รุ่นต่างๆ ปี 2025 พร้อมแนะนำวิธีเลือกเตารีดไอน้ำให้เหมาะกับการใช้งาน และ 10 รุ่นยอดนิยมที่น่าสนใจ
วิธีเลือกเตารีดไอน้ำ Philips ให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือกเตารีดไอน้ำที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเตารีดไอน้ำ Philips มีหลากหลายรุ่น หลากหลายฟังก์ชัน และราคาที่แตกต่างกัน เราจึงได้รวบรวมแนวทางการเลือกเตารีดไอน้ำให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ ดังนี้
พิจารณาจากประเภทของเตารีดไอน้ำ
เตารีดไอน้ำของ Philips มีหลายประเภท แต่ละประเภทตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานและความต้องการของคุณ
- เตารีดไอน้ำแบบธรรมดา
เตารีดไอน้ำแบบธรรมดาเหมาะสำหรับผู้ที่รีดผ้าเป็นประจำแต่ไม่มากนัก มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง และใช้งานง่าย มีแท็งก์น้ำขนาดเล็กถึงปานกลาง อาจต้องเติมน้ำบ่อยหากรีดผ้าครั้งละมากๆ เช่น รุ่น DST5010/10, GC1758/88 - เตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้ม
เตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้มเหมาะสำหรับผู้ที่รีดผ้าปริมาณมาก หรือรีดผ้าหนาๆ ที่มีรอยยับยาก มีแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ ให้พลังไอน้ำแรงและต่อเนื่อง สามารถรีดผ้าได้นานโดยไม่ต้องเติมน้ำบ่อย มีน้ำหนักมากกว่าแบบธรรมดา และราคาสูงกว่า เช่น รุ่น PSG8160/30, PSG3000/30, PSG2000/80 - เตารีดไอน้ำแบบยืนรีด
เตารีดไอน้ำแบบยืนรีดเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดรอยยับผ้าอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้โต๊ะรองรีด เหมาะสำหรับการรีดเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ ผ้าม่าน หรือผ้าบางชนิดที่รีดยาก เช่น ผ้าไหม เป็นต้น เช่น รุ่น STE3170/80
พิจารณาจากกำลังไฟและประสิทธิภาพไอน้ำ
กำลังไฟและประสิทธิภาพไอน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรีดผ้า ควรพิจารณาจาก:
- กำลังไฟ (วัตต์)
- 1700-2000 วัตต์ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
- 2200-2400 วัตต์ เหมาะสำหรับการรีดผ้าปริมาณมาก หรือผ้าหนา
- 2400 วัตต์ขึ้นไป เหมาะสำหรับการรีดผ้าที่มีรอยยับยาก หรือใช้งานระดับมืออาชีพ
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง (กรัม/นาที)
- 25-40 กรัม/นาที เหมาะสำหรับการรีดผ้าบางและเบา
- 40-120 กรัม/นาที เหมาะสำหรับการรีดผ้าทั่วไป
- 120 กรัม/นาทีขึ้นไป เหมาะสำหรับการรีดผ้าหนาหรือผ้าที่มีรอยยับมาก
- พลังไอน้ำพิเศษ (กรัม)
- 100-160 กรัม เหมาะสำหรับการรีดผ้าทั่วไป
- 160-300 กรัม เหมาะสำหรับการรีดผ้าที่มีรอยยับยาก
- 300 กรัมขึ้นไป เหมาะสำหรับการรีดผ้าหนาหรือผ้าที่มีรอยยับมาก
พิจารณาจากขนาดแท็งก์น้ำ
ขนาดแท็งก์น้ำส่งผลต่อระยะเวลาในการรีดผ้าต่อเนื่องโดยไม่ต้องเติมน้ำ ควรเลือกให้เหมาะกับปริมาณผ้าที่คุณต้องรีดในแต่ละครั้ง:
- น้อยกว่า 350 มล. เหมาะสำหรับการรีดผ้าน้อยชิ้น
- 350-1000 มล. เหมาะสำหรับการรีดผ้าปานกลาง
- 1000 มล. ขึ้นไป เหมาะสำหรับการรีดผ้าปริมาณมาก
พิจารณาจากวัสดุของแผ่นความร้อน
วัสดุของแผ่นความร้อนส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรีดผ้า ความทนทาน และการรีดลื่น Philips มีเทคโนโลยีแผ่นความร้อนหลายแบบ:
- แผ่นความร้อนเซรามิก: ทนทาน รีดลื่น ไม่ติดผ้า ทำความสะอาดง่าย
- แผ่นความร้อน SteamGlide: รีดลื่น กระจายไอน้ำได้ดี ทนทานต่อรอยขีดข่วน
- แผ่นความร้อน SteamGlide Plus: รีดลื่นกว่า SteamGlide ธรรมดา ทนทานมากขึ้น
- แผ่นความร้อน SteamGlide Elite: แผ่นความร้อนระดับพรีเมียม รีดลื่นที่สุด ทนทานสูงสุด
พิจารณาจากฟังก์ชันพิเศษ
เตารีดไอน้ำ Philips มาพร้อมฟังก์ชันพิเศษมากมายที่ช่วยให้การรีดผ้าสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรพิจารณาฟังก์ชันที่ตรงกับความต้องการของคุณ:
- เทคโนโลยี OptimalTEMP: ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติให้เหมาะกับผ้าทุกชนิด ไม่ต้องปรับตั้งค่า ช่วยป้องกันผ้าไหม้
- ระบบ Easy De-Calc: ช่วยขจัดตะกรันได้ง่าย ยืดอายุการใช้งานของเตารีด
- ระบบตัดไฟอัตโนมัติ: ปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพิ่มความปลอดภัย ประหยัดไฟ
- ระบบป้องกันน้ำหยด: ป้องกันน้ำหยดเปื้อนผ้าขณะรีด
- ฟังก์ชันรีดในแนวตั้ง: รีดผ้าที่แขวนอยู่ได้ เหมาะสำหรับผ้าม่าน หรือเสื้อผ้าที่ต้องการลดรอยยับอย่างรวดเร็ว
- เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว: ปรับปริมาณไอน้ำอัตโนมัติตามความเคลื่อนไหวของเตารีด
พิจารณาจากราคาและงบประมาณ
ราคาของเตารีดไอน้ำ Philips มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับประเภท คุณสมบัติ และเทคโนโลยี ควรพิจารณาให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของคุณ:
- ราคาต่ำ (ต่ำกว่า 2,000 บาท): เตารีดไอน้ำแบบธรรมดา ฟังก์ชันพื้นฐาน เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
- ราคาปานกลาง (2,000-5,000 บาท): เตารีดไอน้ำแบบธรรมดาหรือแบบแยกหม้อต้มรุ่นเริ่มต้น มีฟังก์ชันเพิ่มเติม
- ราคาสูง (5,000-10,000 บาท): เตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้มระดับกลาง มีฟังก์ชันพิเศษหลากหลาย
- ราคาพรีเมียม (มากกว่า 10,000 บาท): เตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้มระดับสูง มีเทคโนโลยีล่าสุด ฟังก์ชันครบครัน
10 รุ่นเตารีดไอน้ำ Philips ยอดนิยม ปี 2025
ต่อไปนี้เป็น 10 รุ่นเตารีดไอน้ำ Philips ยอดนิยมในปี 2025 ที่เราได้รวบรวมมาเพื่อให้คุณเลือกตามความต้องการและงบประมาณ
1. Philips เตารีดไอน้ำ รุ่น PSG8160/30

ราคาอ้างอิง: 18,990 บาท (พรีเมียม)
สินค้าแถมฟรี: โต๊ะรองรีดผ้า PHILIPS PH-1706
คุณสมบัติเด่น:
- เทคโนโลยี OptimalTEMP รับประกันไม่เกิดรอยไหม้บนผ้าทุกชนิดที่รีดได้
- เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ ปรับปริมาณไอน้ำอัตโนมัติตามความเร็วในการรีด
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 170 กรัม/นาที พลังไอน้ำพิเศษ 700 กรัม
- แผ่นความร้อน SteamGlide Elite คุณภาพสูงสุด รีดลื่น ทนทานต่อรอยขีดข่วน
- แท็งก์น้ำแบบใส 1.8 ลิตร ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 2 ชั่วโมง
- ระบบ Easy De-Calc Plus ช่วยขจัดตะกรัน ยืดอายุการใช้งาน
- ระบบตัดไฟอัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัยและประหยัดพลังงาน
- ปุ่มล็อคการทำงานขณะพกพา สำหรับการเคลื่อนย้ายที่ปลอดภัย
- กำลังไฟสูงสุด 2700 วัตต์ แรงดันไอน้ำสูงสุด 8.5 บาร์
ข้อดี:
- เทคโนโลยีล้ำสมัย ไม่ต้องปรับอุณหภูมิให้ยุ่งยาก
- พลังไอน้ำสูงสุด รีดผ้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- ตัวเรือนเตารีดน้ำหนักเบาเพียง 800 กรัม ช่วยลดภาระที่ข้อมือ
- รีดในแนวตั้งได้ง่าย เหมาะสำหรับม่านและเสื้อผ้าที่แขวน
- แท็งก์น้ำขนาดใหญ่ ไม่ต้องเติมน้ำบ่อย
ข้อควรพิจารณา:
- ราคาสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเตารีดระดับพรีเมียม
- ขนาดใหญ่ ต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บ
- น้ำหนักรวมทั้งชุด 3 กก. ค่อนข้างหนักในการเคลื่อนย้าย
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่รีดผ้าปริมาณมาก ต้องการเตารีดคุณภาพสูง ประสิทธิภาพเยี่ยม อายุการใช้งานยาวนาน และไม่จำกัดงบประมาณ
2. Philips เตารีดไอน้ำ รุ่น PSG2000/80

ราคาอ้างอิง: 3,229 บาท (ปานกลาง)
คุณสมบัติเด่น:
- ระบบขจัดตะกรันอัจฉริยะ แจ้งเตือนเมื่อต้องขจัดตะกรัน พร้อมที่ใส่คราบตะกรัน
- น้ำหนักเบาและกะทัดรัด ง่ายต่อการใช้งานและจัดเก็บ
- แผ่นความร้อนเซรามิกทนทาน รีดลื่น ไม่เหนียวติด ทนรอยขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 110 กรัม/นาที พลังไอน้ำพิเศษ 300 กรัม
- กำลังไฟ 2400 วัตต์ แรงดันไอน้ำ 6 บาร์
- แท็งก์น้ำขนาด 1.4 ลิตร ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 2 ชั่วโมง
- รีดในแนวตั้งได้ เหมาะสำหรับผ้าม่านหรือเสื้อผ้าที่แขวน
- โหมดตัดไฟอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน
ข้อดี:
- ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ
- พลังไอน้ำสูง รีดผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แท็งก์น้ำขนาดใหญ่ ไม่ต้องเติมน้ำบ่อย
- ระบบขจัดตะกรันที่ใช้งานง่าย ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ข้อควรพิจารณา:
- ไม่มีเทคโนโลยี OptimalTEMP ต้องปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับชนิดของผ้า
- แท็งก์น้ำไม่สามารถถอดออกได้ ทำให้การเติมน้ำอาจไม่สะดวกนัก
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้มที่มีประสิทธิภาพดี ราคาไม่แพงมาก รีดผ้าปริมาณปานกลางถึงมาก
3. Philips เตารีดไอน้ำ รุ่น GC1758/88

ราคาอ้างอิง: 1,766 บาท (ประหยัด)
คุณสมบัติเด่น:
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 25 กรัม/นาที ช่วยขจัดรอยยับได้อย่างง่ายดาย
- แท็งก์น้ำขนาด 220 มล. รีดผ้าได้หลายชิ้นโดยไม่ต้องเติมบ่อย
- แผ่นความร้อนเซรามิกคุณภาพดี รีดลื่น ไม่ติดผ้า ป้องกันความเสียหายต่อเนื้อผ้า
- ปลายแหลมประสิทธิภาพสามชั้น รีดบริเวณปกเสื้อ กระดุม และพื้นที่ที่เข้าถึงยากได้ง่าย
- ฟังก์ชันปิดอัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัย
- กำลังไฟ 1700 วัตต์ อุ่นเครื่องเร็วเพียง 30 วินาที
- พลังไอน้ำพิเศษ 100 กรัม ขจัดรอยยับที่รีดยาก
- สายไฟยาว 1.9 เมตร เคลื่อนไหวได้อิสระ
ข้อดี:
- ราคาประหยัด คุ้มค่า
- ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาและจัดเก็บง่าย
- ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- อุ่นเครื่องเร็ว ประหยัดเวลา
ข้อควรพิจารณา:
- พลังไอน้ำไม่สูงมาก อาจไม่เหมาะกับผ้าหนาหรือมีรอยยับมาก
- แท็งก์น้ำขนาดเล็ก อาจต้องเติมน้ำบ่อยหากรีดผ้าปริมาณมาก
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่รีดผ้าปริมาณน้อยถึงปานกลาง ต้องการเตารีดไอน้ำคุณภาพดีในราคาประหยัด หรือใช้เป็นเตารีดสำรอง
4. Philips เตารีดไอน้ำ รุ่น PSG3000/30

ราคาอ้างอิง: 3,890 บาท (ปานกลาง)
คุณสมบัติเด่น:
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 120 กรัม/นาที จัดการรอยยับในผ้าทุกชนิดได้ง่าย
- ระบบเพิ่มพลังไอน้ำ 350 กรัม รีดได้เร็วและมีประสิทธิภาพ
- แรงดันปั๊มสูงสุด 6 บาร์ ให้แรงดันไอน้ำสูง
- แผ่นความร้อนเซรามิกทนทาน รีดลื่น ไม่ติดผ้า
- แท็งก์น้ำ 1.4 ลิตร สามารถถอดออกได้ เติมน้ำง่าย
- ระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัย
- ระบบขจัดตะกรัน ช่วยยืดอายุการใช้งาน
- ระบบป้องกันน้ำหยด ป้องกันน้ำหยดเปื้อนผ้า
- กำลังไฟ 2400 วัตต์ ให้ความร้อนรวดเร็ว
ข้อดี:
- พลังไอน้ำสูง รีดผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แท็งก์น้ำขนาดใหญ่และถอดออกได้ สะดวกในการเติมน้ำ
- น้ำหนักเบา กะทัดรัด จัดเก็บง่าย
ข้อควรพิจารณา:
- ไม่มีเทคโนโลยี OptimalTEMP ต้องปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับชนิดของผ้า
- ไม่มีระบบเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้มที่มีประสิทธิภาพดี ในราคาที่ไม่สูงมาก รีดผ้าปริมาณปานกลางถึงมาก
5. Philips เตารีดไอน้ำ รุ่น DST8041

ราคาอ้างอิง: 5,664 บาท (ค่อนข้างสูง)
คุณสมบัติเด่น:
- เทคโนโลยีการควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติให้เหมาะกับผ้าทุกชนิด
- พลังไอน้ำทรงพลังเทอร์โบชาร์จ พลังไอน้ำพิเศษสูงสุด 260 กรัม
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 55 กรัม/นาที ช่วยขจัดรอยยับที่รีดยาก
- แผ่นความร้อนรีดขั้นสูง ให้ประสบการณ์การรีดที่ราบรื่น ป้องกันผ้าเสียหาย
- รีดได้ทั้งแบบแนวราบและแนวตั้ง เหมาะกับเสื้อผ้าหลากหลายรูปแบบ
- กำลังไฟ 2200 วัตต์ ให้ความร้อนรวดเร็ว
- แท็งก์น้ำความจุ 350 มล. ลดความถี่ในการเติมน้ำ
- ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย
ข้อดี:
- ไม่ต้องปรับตั้งค่าอุณหภูมิ ใช้งานง่าย ปลอดภัยกับผ้าทุกชนิด
- พลังไอน้ำสูง ขจัดรอยยับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้งานได้ทั้งแนวราบและแนวตั้ง เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
- ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย
ข้อควรพิจารณา:
- ราคาค่อนข้างสูงสำหรับเตารีดไอน้ำแบบธรรมดา
- แท็งค์น้ำไม่ใหญ่มาก อาจต้องเติมน้ำบ่อยหากรีดผ้าปริมาณมาก
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเตารีดไอน้ำแบบธรรมดาที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ไม่ต้องปรับอุณหภูมิให้ยุ่งยาก รีดผ้าปริมาณปานกลาง และต้องการความคล่องตัวในการใช้งาน
6. Philips เตารีดไอน้ำ รุ่น DST5010/10

ราคาอ้างอิง: 1,290 บาท (ประหยัด)
คุณสมบัติเด่น:
- แผ่นความร้อน SteamGlide Plus ใช้งานได้นานขึ้นถึง 4 เท่า รีดลื่น ไม่ติดเนื้อผ้า ป้องกันรอยขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย
- กำลังไฟ 2400 วัตต์ ให้ความร้อนรวดเร็ว ประสิทธิภาพสูง
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 40 กรัม/นาที ให้ประสิทธิภาพที่คงที่ดีเยี่ยม
- พลังไอน้ำพิเศษสูงสุด 160 กรัม ช่วยขจัดรอยยับที่รีดยาก
- ระบบป้องกันน้ำหยด รีดผ้าบอบบางในอุณหภูมิต่ำได้อย่างมั่นใจ
- ฟังก์ชันทำความสะอาด Calc-Clean ในตัว ขจัดแคลเซียมและคราบหินปูน
- ด้ามจับผิวละเอียด จับได้ถนัดมือ ไม่ลื่นหลุด
- ฟังก์ชันพลังไอน้ำในแนวตั้ง รีดผ้าที่แขวนได้ ไม่ต้องใช้โต๊ะรองรีด
- แท็งก์น้ำขนาด 320 มล.
ข้อดี:
- ราคาประหยัด คุ้มค่า
- แผ่นความร้อนคุณภาพดี ใช้งานได้นาน
- กำลังไฟสูง อุ่นเครื่องเร็ว
- ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานประจำวัน
ข้อควรพิจารณา:
- พลังไอน้ำไม่สูงมาก อาจไม่เหมาะกับผ้าหนาหรือมีรอยยับมาก
- ต้องปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับชนิดของผ้า
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่รีดผ้าปริมาณน้อยถึงปานกลาง ต้องการเตารีดไอน้ำคุณภาพดีในราคาประหยัด เหมาะสำหรับการใช้งานประจำวันทั่วไป
7. Philips เตารีดไอน้ำ รุ่น GC1758/88 (รุ่นอัพเดทล่าสุด)

ราคาอ้างอิง: 1,621 บาท (ประหยัด)
คุณสมบัติเด่น:
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 25 กรัม/นาที ช่วยขจัดรอยยับได้อย่างง่ายดาย
- แท็งก์น้ำขนาดใหญ่ 220 มล. รีดผ้าได้หลายชิ้นโดยไม่ต้องเติมบ่อย
- แผ่นความร้อนเซรามิกคุณภาพดี รีดลื่น ไม่ติดผ้า ป้องกันความเสียหายต่อเนื้อผ้า
- ปลายแหลมประสิทธิภาพสามชั้น รีดบริเวณปกเสื้อ กระดุม พื้นที่เข้าถึงยาก
- ฟังก์ชันปิดอัตโนมัติ ปิดเครื่องเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพิ่มความปลอดภัย
- กำลังไฟ 1700 วัตต์ อุ่นเครื่องเร็วเพียง 30 วินาที
- พลังไอน้ำพิเศษ 100 กรัม แทรกซึมผ้าอย่างล้ำลึก กำจัดรอยยับที่แข็งได้ง่าย
- สายไฟยาว 1.9 เมตร เคลื่อนไหวได้อิสระ
ข้อดี:
- ราคาประหยัด คุ้มค่า
- ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาและจัดเก็บง่าย
- ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- อุ่นเครื่องเร็ว ประหยัดเวลา
ข้อควรพิจารณา:
- พลังไอน้ำไม่สูงมาก อาจไม่เหมาะกับผ้าหนาหรือมีรอยยับมาก
- แท็งก์น้ำขนาดเล็ก อาจต้องเติมน้ำบ่อยหากรีดผ้าปริมาณมาก
- เป็นรุ่นพื้นฐาน ไม่มีฟังก์ชันพิเศษมากนัก
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่รีดผ้าปริมาณน้อย ต้องการเตารีดไอน้ำคุณภาพดีในราคาประหยัด หรือใช้เป็นเตารีดสำรอง
8. Philips เตารีดไอน้ำ รุ่น STE3170/80

ราคาอ้างอิง: 4,990 บาท (ค่อนข้างสูง)
คุณสมบัติเด่น:
- เตารีดไอน้ำแบบตั้งพื้น พร้อมใช้งานในเวลาไม่ถึง 60 วินาที
- StyleBoard แบบปรับเอียงได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
- ปลายแหลมขนาดใหญ่ ช่วยให้รีดผ้าได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ
- กำลังไฟ 2400 วัตต์ ให้ความร้อนรวดเร็ว
- ปรับระดับไอน้ำได้ 3 ระดับ ตามความต้องการ
- พลังไอน้ำ 40 กรัม/นาที ช่วยขจัดรอยยับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แท็งก์น้ำขนาดใหญ่ 2 ลิตร ใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องเติมน้ำบ่อย
- ดีไซน์เพรียวบาง จัดเก็บง่าย
- มีเครื่องกระจายกลิ่น MyEssence ให้ความสดชื่นและหอมสำหรับเสื้อผ้า
- ระบบป้องกันน้ำหยด ป้องกันน้ำหยดเปื้อนผ้า
- ระบบขจัดตะกรัน ช่วยยืดอายุการใช้งาน
- ระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัย
ข้อดี:
- ใช้งานสะดวก ไม่ต้องใช้โต๊ะรองรีด
- แท็งก์น้ำขนาดใหญ่มาก ใช้งานได้นาน
- ร้อนเร็ว พร้อมใช้งานภายใน 60 วินาที
- ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย จัดเก็บง่าย
- เหมาะสำหรับผ้าบอบบาง เช่น ผ้าไหม ผ้าซาติน
ข้อควรพิจารณา:
- ราคาค่อนข้างสูง
- อาจไม่สามารถขจัดรอยยับได้เรียบเท่ากับเตารีดแบบปกติ
- น้ำหนักค่อนข้างมาก (4.23 กก. สำหรับหัวพ่นไอน้ำ + ฐาน)
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความสะดวกในการรีดผ้า ไม่ต้องการใช้โต๊ะรองรีด มีเสื้อผ้าที่ต้องรีดบ่อย เช่น เสื้อเชิ้ต ชุดสูท หรือผ้าบอบบางที่ต้องการความระมัดระวังในการรีด
9. Philips เตารีดไอน้ำ รุ่น DST5010/10 (รุ่นขายดี)

ราคาอ้างอิง: 1,099 บาท (ประหยัด)
คุณสมบัติเด่น:
- แผ่นความร้อน SteamGlide Plus กันรอยขีดข่วน รีดลื่น ไม่ติดเนื้อผ้า ทำความสะอาดง่าย
- กำลังไฟ 2400 วัตต์ ให้ความร้อนรวดเร็ว ประสิทธิภาพสูง
- พลังไอน้ำต่อเนื่อง 40 กรัม/นาที ช่วยขจัดรอยยับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- พลังไอน้ำพิเศษ 160 กรัม ช่วยขจัดรอยยับที่รีดยาก
- ระบบ Calc-Clean ในตัว ช่วยขจัดตะกรัน ยืดอายุการใช้งาน
- ระบบป้องกันน้ำหยดขณะรีด ป้องกันน้ำหยดเปื้อนผ้า
- แท็งก์น้ำขนาด 320 มล. ใช้งานได้นานพอสมควร
ข้อดี:
- ราคาประหยัดมาก คุ้มค่าสูง
- ประสิทธิภาพดีเมื่อเทียบกับราคา
- แผ่นความร้อนคุณภาพดี ใช้งานได้นาน
- กำลังไฟสูง อุ่นเครื่องเร็ว
- ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานประจำวัน
ข้อควรพิจารณา:
- เป็นรุ่นพื้นฐาน ไม่มีฟังก์ชันพิเศษมากนัก
- แท็งก์น้ำไม่ใหญ่มาก อาจต้องเติมน้ำบ่อยหากรีดผ้าปริมาณมาก
- ต้องปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับชนิดของผ้า
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้เตารีดไอน้ำ ต้องการเตารีดคุณภาพดีในราคาประหยัดมาก หรือใช้เป็นเตารีดสำรอง รีดผ้าปริมาณน้อยถึงปานกลาง
10. Philips เตารีดไอน้ำ รุ่น GC122/30

ราคาอ้างอิง: 482 บาท (ประหยัดมาก)
คุณสมบัติเด่น:
- เตารีดแห้งดีไซน์ใหม่ แผ่นความร้อนปลายหัวเรียวเล็ก เข้าถึงจุดที่รีดยากได้ง่าย
- ด้ามจับถนัดมือ ขนาดใหญ่ ระบบควบคุมอุณหภูมิที่ได้รับการยกระดับ
- แผ่นความร้อนไม่ติดเนื้อผ้า (Non-Stick) ป้องกันผ้าเสียหาย
- กำลังไฟ 1200 วัตต์ อุ่นเครื่องรวดเร็ว
- สายไฟยาว 1.7 เมตร เคลื่อนไหวได้อิสระ
- น้ำหนักเบาเพียง 0.634 กก. ช่วยให้รีดลื่น ใช้แรงน้อย
- สัญญาณไฟอุณหภูมิ บ่งชี้เมื่อเตารีดร้อนเพียงพอพร้อมใช้งาน
ข้อดี:
- ราคาประหยัดมาก
- น้ำหนักเบา พกพาและจัดเก็บง่าย
- ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องไอน้ำและตะกรัน
ข้อควรพิจารณา:
- เป็นเตารีดแห้ง ไม่มีระบบไอน้ำ ประสิทธิภาพในการรีดอาจไม่ดีเท่าเตารีดไอน้ำ
- อาจต้องใช้เวลาและแรงในการรีดมากกว่าเตารีดไอน้ำ
- กำลังไฟน้อยกว่ารุ่นอื่น (1200 วัตต์) อาจทำให้การอุ่นเครื่องและรีดผ้าหนาช้ากว่า
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด ต้องการเตารีดพื้นฐานที่ใช้งานได้ดี รีดผ้าไม่มาก หรือใช้เป็นเตารีดสำรอง/พกพา
เปรียบเทียบเตารีดไอน้ำ Philips แต่ละรุ่น
เพื่อให้คุณเลือกเตารีดไอน้ำ Philips ได้ง่ายขึ้น เราได้ทำตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติสำคัญของเตารีดไอน้ำแต่ละรุ่นไว้ดังนี้:
รุ่น | ประเภท | กำลังไฟ (วัตต์) | พลังไอน้ำต่อเนื่อง (กรัม/นาที) | พลังไอน้ำพิเศษ (กรัม) | ขนาดแท็งก์น้ำ (มล.) | ราคา (บาท) |
PSG8160/30 | แยกหม้อต้ม | 2700 | 170 | 700 | 1800 | 18,990 |
PSG2000/80 | แยกหม้อต้ม | 2400 | 110 | 300 | 1400 | 3,229 |
GC1758/88 | ธรรมดา | 1700 | 25 | 100 | 220 | 1,766 |
PSG3000/30 | แยกหม้อต้ม | 2400 | 120 | 350 | 1400 | 3,890 |
DST8041 | ธรรมดา | 2200 | 55 | 260 | 350 | 5,664 |
DST5010/10 | ธรรมดา | 2400 | 40 | 160 | 320 | 1,290 |
GC1758/88 (อัพเดท) | ธรรมดา | 1700 | 25 | 100 | 220 | 1,621 |
STE3170/80 | แบบยืนรีด | 2400 | 40 | – | 2000 | 4,990 |
DST5010/10 (ขายดี) | ธรรมดา | 2400 | 40 | 160 | 320 | 1,099 |
GC122/30 | เตารีดแห้ง | 1200 | – | – | – | 482 |
คำแนะนำในการใช้งานและดูแลรักษาเตารีดไอน้ำ Philips
เพื่อให้เตารีดไอน้ำ Philips ของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีประสิทธิภาพสูงสุด เราขอแนะนำวิธีการใช้งานและดูแลรักษาดังนี้:
การใช้งานเตารีดไอน้ำอย่างถูกวิธี
- ตรวจสอบป้ายกำกับเสื้อผ้า: ก่อนรีดผ้า ควรตรวจสอบป้ายกำกับการดูแลเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถรีดด้วยอุณหภูมิและไอน้ำได้
- เรียงลำดับการรีด: ควรเริ่มรีดผ้าที่ต้องการอุณหภูมิต่ำก่อน แล้วค่อยเพิ่มอุณหภูมิสำหรับผ้าที่ต้องการอุณหภูมิสูงขึ้น
- ใช้ไอน้ำอย่างเหมาะสม: ใช้ไอน้ำสำหรับผ้าที่มีรอยยับมาก และผ้าหนา ส่วนผ้าบางอาจใช้ไอน้ำน้อยหรือไม่ใช้เลย
- วางเตารีดในแนวตั้ง: เมื่อพักการรีด ควรวางเตารีดในแนวตั้งหรือบนฐานที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ
การดูแลรักษาเตารีดไอน้ำ
- ทำความสะอาดแผ่นความร้อน: เช็ดแผ่นความร้อนด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ เมื่อเย็นลงแล้ว หากมีคราบสกปรกติดแน่น ใช้น้ำส้มสายชูเจือจางเช็ดเบาๆ
- ขจัดตะกรัน: ทำการขจัดตะกรันตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ หรือเมื่อมีสัญญาณเตือน
- เทน้ำออกหลังใช้งาน: หลังใช้งานเสร็จ ควรเทน้ำออกจากแท็งก์ให้หมด เพื่อป้องกันการเกิดตะกรันและการรั่วซึม
- จัดเก็บอย่างเหมาะสม: จัดเก็บเตารีดในที่แห้งและปลอดภัย มั่นใจว่าสายไฟไม่บิดงอหรือพันกัน
ข้อควรระวังในการใช้งาน
- ไม่ใช้น้ำอ่อน หรือน้ำผสมสารปรับผ้านุ่ม: อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบไอน้ำได้
- ไม่รีดบนซิป กระดุมโลหะ หรือโลหะอื่นๆ โดยตรง: อาจทำให้แผ่นความร้อนเป็นรอยขีดข่วนได้
- ระวังไอน้ำร้อน: ไอน้ำที่ออกมาจากเตารีดมีอุณหภูมิสูงมาก ควรระวังไม่ให้โดนผิวหนัง
- ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นใกล้เตารีด: เพื่อความปลอดภัย ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ใกล้เตารีดที่กำลังใช้งานหรือยังร้อนอยู่
สรุป
เตารีดไอน้ำ Philips มีหลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเตารีดไอน้ำแบบธรรมดา เตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้ม หรือเตารีดไอน้ำแบบยืนรีด แต่ละรุ่นมีจุดเด่นและคุณสมบัติเฉพาะที่ช่วยให้การรีดผ้าเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพ