
ความปลอดภัยของลูกน้อยคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพ่อแม่ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์ คาร์ซีทจึงเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ได้อย่างมาก บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับการใช้งาน พร้อมแนะนำ 10 คาร์ซีทยอดนิยมจากหลากหลายแบรนด์ที่คุณภาพดี มาตรฐานสูง และตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ปกครอง
วิธีการเลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมจะช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยและสบายตลอดการเดินทาง ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้ก่อนตัดสินใจซื้อ
เลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับช่วงอายุและน้ำหนักของเด็ก
คาร์ซีทแต่ละรุ่นออกแบบมาสำหรับเด็กในช่วงอายุและน้ำหนักที่แตกต่างกัน สามารถแบ่งได้เป็น:
- กลุ่ม 0+: สำหรับเด็กแรกเกิด – 13 กก. (มักเป็นคาร์ซีทแบบกระเช้า หันหลังชนเบาะ)
- กลุ่ม 1: สำหรับเด็ก 9-18 กก. (ประมาณ 9 เดือน – 4 ปี)
- กลุ่ม 2/3: สำหรับเด็ก 15-36 กก. (ประมาณ 3-12 ปี)
- แบบ All-in-One: ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 12 ปี (มีระบบปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ)
ควรเลือกให้เหมาะกับช่วงวัยของลูก หรือหากต้องการใช้งานระยะยาว อาจเลือกแบบที่ปรับเปลี่ยนได้ตามอายุ
ดูระบบติดตั้ง ISOFIX หรือเข็มขัดนิรภัย
คาร์ซีทมีระบบติดตั้ง 2 แบบหลัก:
- ระบบ ISOFIX: เป็นมาตรฐานสากลที่ช่วยให้ติดตั้งคาร์ซีทได้มั่นคงปลอดภัย ลดโอกาสติดตั้งผิดพลาด
- ระบบเข็มขัดนิรภัย (Seat Belt): ใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ในการติดตั้ง เหมาะกับรถที่ไม่มีจุด ISOFIX
บางรุ่นรองรับการติดตั้งได้ทั้งสองแบบ ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า
เลือกคาร์ซีทที่หมุนได้ 360 องศา เพิ่มความสะดวก
คาร์ซีทที่หมุนได้ 360 องศามีข้อดีหลายประการ:
- สะดวกในการวางและอุ้มเด็ก โดยไม่ต้องบิดตัวมากเกินไป
- ปรับเปลี่ยนระหว่างแบบหันหน้าเข้าและออกจากเบาะได้ง่าย
- เหมาะสำหรับเด็กหลายช่วงวัย ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงเด็กโต
แต่อาจมีราคาสูงกว่าคาร์ซีทรุ่นทั่วไป
ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย
คาร์ซีทที่ดีควรผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ เช่น:
- ECE R44/04 หรือ ECE R129 (i-Size): มาตรฐานยุโรป
- FMVSS 213: มาตรฐานอเมริกา
มาตรฐาน i-Size (ECE R129) เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดที่เข้มงวดกว่า มีการทดสอบแรงกระแทกด้านข้างเพิ่มเติม และใช้ความสูงของเด็กเป็นเกณฑ์แทนน้ำหนัก
พิจารณาความสะดวกสบายและฟังก์ชันเสริม
คาร์ซีทควรมีความสะดวกทั้งสำหรับเด็กและผู้ปกครอง ควรพิจารณา:
- เบาะและวัสดุ: ควรระบายอากาศได้ดี ถอดซักง่าย ทนทาน
- ระบบปรับเอน: ช่วยให้เด็กนอนหลับสบายระหว่างเดินทาง
- หมอนรองศีรษะปรับระดับ: รองรับการเจริญเติบโตของเด็ก
- อุปกรณ์เสริม: เช่น ที่วางแก้ว แผ่นกันแดด หรือระบบป้องกันแรงกระแทกด้านข้าง
10 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ยอดนิยมปี 2025
ต่อไปนี้เป็นคาร์ซีท 10 รุ่นยอดนิยมในปี 2025 ที่มีคุณภาพดี ได้มาตรฐาน และมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
1. Recaro Salia Elite Prime 360° Car Seat คาร์ซีท เด็กแรกเกิด – 7 ขวบ หมุน 360° บาร์จับยก ติดตั้ง Isofix

ราคา: 28,797 บาท
จุดเด่น:
- คาร์ซีท 2 in 1 หมุนได้ 360 องศา สะดวกในการอุ้มเด็กเข้า-ออก
- รองรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 7 ขวบ (น้ำหนักไม่เกิน 18 กก., ความสูง 40-125 ซม.)
- มีตระกร้าหิ้วพร้อมบาร์จับยก สะดวกในการเคลื่อนย้าย
- ปรับเอนเบาะได้ 4 ระดับ ทั้งแบบหันหน้าเข้าและออกจากเบาะ
- ระบบป้องกันแรงกระแทกด้านข้างแบบ ADVANCED SIDE PROTECTION
- ติดตั้งง่ายด้วย ISOFIX ผ่านการทดสอบมาตรฐาน I-SIZE
- พนักพิงศีรษะทำจาก Memory Foam นุ่มสบาย รองรับศีรษะได้ดี
- มีเบาะรองนั่งสำหรับเด็กแรกเกิด รองรับสรีระทารกได้อย่างถูกต้อง
- ผ้าหุ้มเบาะระบายอากาศได้ดี ให้ความสบายระหว่างการเดินทาง
ข้อมูลทางเทคนิค:
- ขนาด: กว้าง 44 ซม. x ยาว 63-68 ซม. x สูง 61-69 ซม.
- น้ำหนัก: 15 กิโลกรัม
- รับประกันโครงสร้าง 3 ปี และรับประกันอุบัติเหตุคาร์ซีท 7 ปี
Recaro Salia Elite Prime เป็นคาร์ซีทที่ครบครันในคันเดียว เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการใช้คาร์ซีทในระยะยาว ได้มาตรฐานความปลอดภัยสูง แม้จะมีราคาสูง แต่คุ้มค่าเพราะใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 7 ขวบ
2. Maxi Cosi Car Seat Nomad Plus คารซีทเด็กพับได้ พกง่าย สะพาย – สำหรับวัย 15 เดือน – 4 ขวบ

ราคา: 10,290 บาท
จุดเด่น:
- คาร์ซีทพับได้ พกพาสะดวก มาพร้อมกระเป๋ากันน้ำ
- เหมาะสำหรับเด็กอายุ 15 เดือน – 4 ขวบ
- ติดตั้งแบบหันหน้าออกจากเบาะด้วยเข็มขัดนิรภัยรถยนต์
- มีสายรัดนิรภัย 5 จุด เพิ่มความปลอดภัย
- ที่รองศีรษะปรับระดับได้ง่ายด้วยมือเดียว
- ติดตั้งได้ง่ายในรถทุกรุ่น
- ผ้าถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย
- ใช้ผ้า Eco Care รีไซเคิล 100% คุณภาพสูง
- มีระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง
- แผ่นรองบริเวณไหล่มีแถบกันลื่น
- น้ำหนักเบาเพียง 4.26 กิโลกรัม
Maxi Cosi Nomad Plus เป็นคาร์ซีทที่ตอบโจทย์ครอบครัวที่เดินทางบ่อยหรือต้องการคาร์ซีทสำรอง ด้วยคุณสมบัติพับเก็บได้ น้ำหนักเบา และพกพาสะดวก สามารถนำติดตัวไปในทริปเดินทางได้โดยง่าย เหมาะสำหรับเด็กที่พ้นวัยทารกแล้ว
3. Chicco Fit360 Cleartex Car Seat คาร์ซีท รุ่นเดียวที่หมุน 360° ได้ทั้ง 2 ระบบ isofix & belt เด็กแรกเกิด – 7ขวบ+

ราคา: 33,995 บาท
จุดเด่น:
- คาร์ซีทนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศอิตาลี
- เป็นรุ่นที่หมุนได้ 360 องศาได้ทั้ง 2 ระบบ ISOFIX และ Belt
- หมุนได้ง่ายด้วยมือเดียว
- เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 7 ขวบ+
- ติดตั้งแบบหันหน้าเข้าได้สูงสุด 18.14 กก. และแบบหันหน้าออกได้สูงสุด 29.5 กก.
- ระบบ LEVER LOCK ล็อคปรับความตึงอัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัย
- ปรับระดับความสูงของพนักศีรษะได้ถึง 15 ระดับ
- ตัวคาร์ซีทปรับเอนนอนได้ 6 ระดับ
- ระบบสายรัดนิรภัย 5 จุด แบบ Quick-Secure พร้อมคลิปหน้าอกแบบแม่เหล็ก
- มีซัพพอร์ทสำหรับเด็กแรกเกิด พร้อมซิปที่ช่วยให้ถอดเบาะออกมาซักได้ง่าย
- ระบบ DuoGuard® ป้องกันแรงกระแทกด้านข้าง
- วัสดุ ClearTex® ปราศจากสารหน่วงไฟ ได้รับการรับรอง GREENGUARD Gold
- ผ่านการรับรองว่าสามารถใช้บนเครื่องบินได้
การรับประกัน:
- รับประกันโครงสร้าง 4 ปี และรับประกันอุบัติเหตุคาร์ซีท 7 ปี
- บริการตรวจสอบและทำความสะอาดสินค้าฟรี (มูลค่า 3,200 บาท)
Chicco Fit360 Cleartex เป็นคาร์ซีทระดับพรีเมียมที่มาพร้อมนวัตกรรมความปลอดภัยล่าสุด เป็นรุ่นเดียวที่หมุนได้ 360 องศาทั้งระบบ ISOFIX และ Belt ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการคาร์ซีทคุณภาพสูง ใช้งานได้ยาวนาน แม้จะมีราคาสูง แต่คุ้มค่าด้วยฟีเจอร์ที่ครบครัน
4. Cozy N Safe Apollo Car Seat คาร์ซีท เด็กแรกเกิด – 12ขวบ หมุน 360 ติดตั้ง Isofix ซับพอตในตัว

ราคา: 6,997 บาท
จุดเด่น:
- คาร์ซีทแบบหมุนได้ 360 องศา ด้วยระบบ Air-swivel
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึง 12 ขวบ (รองรับน้ำหนัก 0-36 กก.)
- หันหน้าเข้าเบาะสำหรับกลุ่ม 0+ (แรกเกิดถึง 4 ขวบโดยประมาณ)
- หันหน้าออกสำหรับกลุ่ม 1/2/3 (9 เดือนถึง 12 ปี)
- ติดตั้งด้วย Isofix, Top Tether หรือเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ได้
- โครงสร้างเบาและระบายอากาศดี
- ปรับระดับความสูงของพนักพิงศีรษะได้หลายระดับ
- ปรับเอนได้ 5 ระดับ สะดวกสบายสำหรับเด็ก
- สายรัดนิรภัยแบบมาตรฐาน 5 จุด
- มีแผ่นรองสำหรับทารก
- เบาะผ้าถอดซักได้ง่าย
- ผ่านมาตรฐาน Side Impact Protection ป้องกันแรงกระแทกด้านข้าง
- ผ่านมาตราฐานทดสอบสินค้าระดับสากล ECE R44/04
การรับประกัน:
- รับประกันโครงสร้าง 3 ปี และรับประกันอุบัติเหตุคาร์ซีท 5 ปี
Cozy N Safe Apollo เป็นคาร์ซีทที่มีความคุ้มค่าสูง ด้วยราคาที่เข้าถึงได้แต่สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 12 ขวบ มีระบบหมุน 360 องศา และรองรับการติดตั้งได้หลายรูปแบบ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาตัวเลือกคุ้มค่า งบประมาณไม่สูง แต่ต้องการคาร์ซีทที่ใช้ได้ยาวนาน
5. Graco 4Ever Deluxe 5 In 1 Car Seat คาร์ซีท แรกเกิด – 12 ขวบ 5 โหมดการใช้งาน ติดตั้ง Isofix

ราคา: 19,597 บาท
จุดเด่น:
- คาร์ซีทอเนกประสงค์ ปรับได้ 5 โหมด ใช้ได้นาน
- เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 12 ปี (4-54 กิโลกรัม)
- ดีไซน์บางเฉียบ ประหยัดพื้นที่ในรถ
- ระบบ Graco ProtectPlus Engineered ผ่านการทดสอบการชนที่เข้มงวด
- ปรับระดับหมอนรองศีรษะและสายรัดพร้อมกันได้ง่ายด้วยระบบ Simply Safe Adjust
- ปรับความสูงของหมอนรองศีรษะได้ 10 ตำแหน่ง
- ปรับเอนเบาะได้ 6 ตำแหน่ง สะดวกสบาย
- ติดตั้งง่ายด้วยระบบ ISOFIX InRight LATCH
- มีระบบ Seat Belt Trainer ฝึกให้เด็กโตใช้เข็มขัดนิรภัยอย่างถูกต้อง
- เบาะถอดซักได้ง่าย ทำความสะอาดสะดวก
- เทคโนโลยี SnugLock® ติดตั้งรวดเร็วภายใน 1 นาที
- โครงเหล็กเสริมความแข็งแรง ทนทาน
- มีที่วางแก้วน้ำ 2 ช่อง ปรับได้ เก็บสะดวก
- ทำจากโฟม EPS ดูดซับพลังงาน ปกป้องเด็กจากแรงกระแทก
- ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย FMVSS213
การรับประกัน:
- รับประกัน 3 ปี
Graco 4Ever DLX 5-in-1 เป็นคาร์ซีทระดับกลาง-สูงที่มีความคุ้มค่ามาก สามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 5 โหมด ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 12 ปี มาจากแบรนด์ชั้นนำของอเมริกา ที่เน้นความปลอดภัยและนวัตกรรม เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการคาร์ซีทคุณภาพดี ใช้งานได้ยาวนาน งบประมาณปานกลาง
6. Nuna Car Seat Revv คาร์ซีทเด็ก หมุนได้มาตรฐานอเมริกา ติดตั้งได้ทั้ง 2 ระบบ ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 4 ขวบ

ราคา: 37,125 บาท
จุดเด่น:
- คาร์ซีทหมุนได้ 360 องศา มาตรฐานอเมริกา
- ติดตั้งได้ทั้ง 2 ระบบ (เข็มขัดนิรภัยและ Isofix)
- ระบบกล่องล็อค True tension™ doors (ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Nuna)
- เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด – 4 ขวบ (น้ำหนักไม่เกิน 18 กก.)
- พนักพิงปรับเอนได้ 5 ระดับเมื่อหันหน้าเข้า และอีก 5 ระดับเมื่อหันหน้าออก
- แผ่นรองนอนสำหรับเด็กแรกเกิดทำจาก Merino wool ระบายอากาศดี ปรับอุณหภูมิได้ไว
- ที่วางแก้วคู่พับเก็บได้ทั้งสองข้าง
- ผ้าหุ้มคาร์ซีทผลิตจากวัสดุที่ไม่ลามไฟ
- โครงสร้างภายในเสริมด้วยเหล็ก แข็งแรงพิเศษ
- พนักพิงศีรษะปรับความสูงได้ 10 ระดับ ปรับง่ายด้วยมือเดียว
- ระบบป้องกันและลดแรงกระแทกด้านข้าง SIP พร้อมเทคโนโลยี Aeroflex™
- เข็มขัดนิรภัย 5 จุด แบบ no-rethread harness ไม่ต้องร้อยสายใหม่
- มีแม่เหล็กเก็บสายคาดเข็มขัดนิรภัยบริเวณข้างเบาะ สะดวกในการใช้งาน
- มีช่องระบายอากาศที่ด้านหลังคาร์ซีท ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี
ข้อมูลทางเทคนิค:
- ขนาด: กว้าง 47 ซม. x ยาว 55-57 ซม. x สูง 57-75 ซม.
- น้ำหนัก: 14.5 กิโลกรัม
Nuna Revv เป็นคาร์ซีทระดับพรีเมียมที่มีคุณภาพสูง ผลิตภัณฑ์ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันและใช้วัสดุระดับสูง เช่น ขนแกะ Merino ราคาอยู่ในระดับสูง แต่คุ้มค่าสำหรับครอบครัวที่มองหาคาร์ซีทที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และสบายที่สุดสำหรับเด็ก
7. PapaMama Baby&mama Car Seat V.1 คาร์ซีท สำหรับเด็ก 0-4 ปี (น้ำหนัก 0-18กก) ติดตั้งได้หน้าหลัง พร้อมสายนิรภัย 5 จุด

ราคา: 1,559 บาท
จุดเด่น:
- คาร์ซีทราคาประหยัด เข้าถึงได้ง่าย
- เหมาะสำหรับเด็กอายุ 0-4 ปี (น้ำหนัก 0-18 กก.)
- โครงสร้างทำจากวัสดุ HDPE แข็งแรงทนทาน
- ตัวฐาน Special Base ออกแบบเพื่อรองรับการกดทับและป้องกันการลื่นไหล
- ระบบ Sip Fiank Protection ออกแบบให้หนาและโอบอุ้มจากด้านข้าง ช่วยลดการกระแทก
- ปรับเอนนอนได้ 3 ระดับ:
- ระดับที่ 1: การนั่ง 90°
- ระดับที่ 2: การเอน 135°
- ระดับที่ 3: การนอน 165°
- สายเข็มขัดนิรภัย 5 จุด ช่วยป้องกันและลดอาการบาดเจ็บในการเกิดอุบัติเหตุ
- ติดตั้งได้ 2 รูปแบบ: แบบหันหน้าและแบบหันหลัง
- การติดตั้งแบบหันหลังช่วยให้กระดูกสันหลังของเด็กใกล้ชิดเบาะมากขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น
- ใช้งานได้กับรถยนต์ทั่วไป
- มีให้เลือก 4 สี
ข้อมูลทางเทคนิค:
- ขนาด: กว้าง 46 ซม. x ยาว 55 ซม. x สูง 66 ซม.
PapaMama Baby&mama Car Seat V.1 เป็นคาร์ซีทราคาประหยัดที่มีฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีงบประมาณจำกัดแต่ยังต้องการความปลอดภัยให้กับลูกน้อย สามารถปรับเอนได้หลายระดับและติดตั้งได้ทั้งแบบหันหน้าและหันหลัง แม้จะไม่มีระบบ ISOFIX แต่ก็ใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ในการติดตั้งได้อย่างมั่นคง
8. Fico คาร์ซีทเด็ก Booster Seat รุ่น HB608 NEW (ตั้งแต่ 3 — 12 ขวบ )

ราคา: 1,590 บาท
จุดเด่น:
- คาร์ซีทแบบ Booster Seat สำหรับเด็กโต
- ล็อตใหม่ปี 2025 เนื้อผ้าออกแบบใหม่ ระบายอากาศได้ดีมากยิ่งขึ้น
- เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3-12 ปี (น้ำหนัก 22-36 กก.) หรือส่วนสูง 125 ซม. ขึ้นไป
- ติดตั้งด้วยระบบเข็มขัดนิรภัยรถยนต์เป็นหลัก
- มีอุปกรณ์เสริมความมั่นคงด้วย ISOFIX ติดตั้งง่าย ยึดแน่น มั่นคง
- เบาะกว้างขนาดใหญ่ นั่งสบายไม่อึดอัดตลอดการเดินทาง
- มีพนักพิงหลังถอดออกได้ ช่วยลดช่องว่างระหว่างหลังกับเบาะ
- ผ้าระบายอากาศ ลดความร้อน ไม่อับชื้น ลดการเกิดเชื้อแบคทีเรีย
- เส้นใยไมโครไฟเบอร์ นุ่มต่อผิวหนัง ไม่ทำให้เกิดรอยแดงหรือรอยคัน
- ผ่านมาตรฐาน OEKO-TEX ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รับรองความปลอดภัยของวัสดุ
- มีสายจัดตำแหน่งเข็มขัด ช่วยล็อกไม่ให้เข็มขัดเลื่อนบาดคอเด็ก
- ที่พักวางแขนโค้งมน จับถนัดมือและไม่บาดผิว
- ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย ECE (R129/ISIZE) ทดสอบด้วยเซนเซอร์มากกว่า 32 จุด
- สามารถถอดผ้าคลุมเบาะซักทำความสะอาดได้
- พับเก็บง่าย พกพาสะดวก
- มีที่วางแก้วน้ำขนาดใหญ่ ถอดเข้า-ออกได้
- รับประกันโครงสร้างแตกหักจากอุบัติเหตุ 5 ปี
วิธีการติดตั้ง: ดันขา Isofix ออกจากตัวคาร์ซีทและเสียบเข้ากับช่องรับ Isofix ที่รถยนต์ จากนั้นใช้สายเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ในการล็อกตัวเด็ก
Fico Booster Seat รุ่น HB608 NEW เป็นคาร์ซีทแบบ Booster ราคาประหยัด ที่เหมาะสำหรับเด็กโตที่มีน้ำหนักและส่วนสูงมากขึ้น ช่วยยกตัวเด็กให้อยู่ในระดับที่สายเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีการรับประกันนานถึง 5 ปี แม้จะมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีเด็กโตและต้องการคาร์ซีทราคาประหยัด
9. DAIICHI – คาร์ซีทแบบกระเช้า Lead i-Size Car seat สำหรับเด็กแรกเกิด – น้ำหนัก 13 Kg (ติดตั้งร่วมกับรถเข็น The Prime ได้)

ราคา: 7,750 บาท
จุดเด่น:
- คาร์ซีทแบบกระเช้าสำหรับเด็กแรกเกิด – 1 ปี (น้ำหนักประมาณ 13 กก.)
- ติดตั้งด้วยระบบ Isofix + Support leg เพิ่มความมั่นคง
- สามารถเคลื่อนย้ายได้โดยไม่รบกวนการนอนหลับของเด็ก
- พนักพิงศีรษะปรับความสูงได้ถึง 87 ซม. ใช้งานได้ยาวนานกว่าคาร์ซีทกระเช้าทั่วไป
- โครงสร้างตัว C ช่วยดูดซับแรงกระแทกด้านข้างได้ดี ลดความเสี่ยงบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
- เนื้อผ้า Air Lead (Air-Solid) ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ทนทาน
- ที่นั่งด้านในโอบอุ้มสรีระได้ดี มุมด้านหลัง 155 องศาเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด
- มี Support Leg ช่วยยึดคาร์ซีทให้มั่นคง ป้องกันการพลิกคว่ำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
- มีหลังคากัน UV ปกป้องผิวทารกจากแสงแดด กางออกได้ง่าย
- ติดตั้งง่ายโดยวางคาร์ซีทบนฐาน ไม่ต้องกดปุ่ม
- สามารถติดตั้งร่วมกับรถเข็น The Prime ได้ (ต้องใช้อะแดปเตอร์)
- ผ่านการรับรอง i-Size ECE R129/03 ของยุโรป
- มีให้เลือก 3 สี: Black, Blue Black และ Beige
ข้อมูลทางเทคนิค:
- ขนาด: 69 ซม. x 44 ซม. x 38.9 ซม.
- น้ำหนัก: 9.5 กิโลกรัม
- รับประกัน: 12 เดือน
DAIICHI Lead i-Size Car seat เป็นคาร์ซีทแบบกระเช้าคุณภาพสูงที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเด็กทารก ช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายเด็กจากรถไปยังรถเข็นได้โดยไม่ต้องรบกวนการนอน และยังสามารถใช้ร่วมกับรถเข็น The Prime ได้ ด้วยการรับรองมาตรฐาน i-Size ทำให้มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีทารกแรกเกิดและต้องการความสะดวกในการเดินทาง
10. MAXX CAR SEAT รุ่น MX-401B คาร์ซีท เบาะเด็กทารก 0-4 ปี เบาะติดรถยนต์สำหรับเด็ก รองรับน้ำหนัก 0-18 กก.

ราคา: 2,840 บาท
จุดเด่น:
- คาร์ซีทราคาประหยัด เหมาะสำหรับเด็กอายุ 0 เดือน – 4 ปี
- รองรับน้ำหนักเด็กไม่เกิน 18 กิโลกรัม
- ปรับเอนได้ตามเบาะรถยนต์ (หากเบาะรถปรับเอนไม่ได้ คาร์ซีทจะเอนไม่ได้)
- ติดตั้งง่ายด้วยเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ 3 จุด
- สายรัดปรับความสูงได้ตามการเจริญเติบโตของเด็ก
- มีซัพพอร์ตรองสายเข็มขัดและหัวเข็มขัด ให้สัมผัสนุ่มสบาย
- ผ้าทำจากวัสดุระบายอากาศได้ดี
- เบาะรองนั่งกว้าง ให้เด็กเคลื่อนตัวได้อย่างอิสระ
ข้อมูลทางเทคนิค:
- ขนาด: 37 x 41 x 67 ซม.
ข้อควรระวัง:
- ต้องติดตั้งให้แน่นหนา คาร์ซีทไม่ควรขยับเกิน 1 นิ้วในทุกทิศทาง
- เด็กอายุไม่ถึง 1 ขวบ ไม่ควรใช้ที่นั่งแบบหันไปด้านหน้า
- ห้ามติดตั้งให้เด็กหันหน้าเข้าหาเบาะโดยหันหลังให้กับถุงลมนิรภัย
- ควรติดตั้งที่เบาะด้านหลังเพื่อความปลอดภัย
- เด็กควรนั่งหันหน้าไปทางด้านหลังจนกว่าจะอายุ 2 ขวบ
- ต้องคาดเข็มขัดให้ถูกวิธี ไม่หลวมเกินไป (ควรสอดนิ้วได้เพียงหนึ่งนิ้ว)
- สายคาดอกควรอยู่บนอกเด็ก
MAXX CAR SEAT รุ่น MX-401B เป็นคาร์ซีทราคาประหยัดที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีงบประมาณจำกัด แต่ยังต้องการความปลอดภัยพื้นฐานให้กับลูกน้อย ใช้งานได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 4 ขวบ ติดตั้งง่ายด้วยเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ แม้จะไม่มีระบบ ISOFIX หรือเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็เป็นตัวเลือกเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมลงทุนกับคาร์ซีทราคาสูง
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้คาร์ซีท
นอกจากการเลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมแล้ว การใช้งานที่ถูกต้องก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้ลูกน้อยได้รับความปลอดภัยสูงสุด ควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้:
การติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกวิธี
การติดตั้งคาร์ซีทที่ไม่ถูกต้องอาจลดประสิทธิภาพในการปกป้องเด็ก ควรปฏิบัติดังนี้:
- อ่านคู่มือการใช้งานอย่างละเอียดทั้งคู่มือของคาร์ซีทและคู่มือรถยนต์
- ติดตั้งคาร์ซีทให้แน่นหนา ไม่ควรขยับได้เกิน 2.5 ซม. (1 นิ้ว) ในทุกทิศทาง
- สำหรับระบบ ISOFIX ต้องแน่ใจว่าล็อคเข้ากับจุด ISOFIX ในรถอย่างสมบูรณ์
- ใช้ Top Tether หรือ Support Leg (ขาค้ำ) ตามที่ผู้ผลิตแนะนำ
- หลีกเลี่ยงการติดตั้งคาร์ซีทในเบาะหน้าที่มีถุงลมนิรภัย
- ตรวจสอบการติดตั้งเป็นประจำ เนื่องจากอาจหลวมลงเมื่อใช้งานไปนาน
การจัดท่านั่งของเด็กให้ถูกต้อง
การจัดท่านั่งที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสบายให้กับเด็ก:
- ปรับสายรัดให้แนบกับตัวเด็ก แต่ไม่รัดจนอึดอัด (ควรสอดนิ้วได้ 1 นิ้วระหว่างสายรัดกับตัวเด็ก)
- จุดรัดสายคาดอก ควรอยู่ระดับเดียวกับรักแร้ของเด็ก
- ตำแหน่งของคลิปหน้าอกควรอยู่ระดับกลางอก
- ถอดเสื้อกันหนาวหนา ๆ ก่อนให้เด็กนั่งคาร์ซีท เพื่อให้สายรัดกระชับกับตัวเด็กมากที่สุด
- ปรับพนักพิงศีรษะให้มีระดับที่เหมาะสมกับความสูงของเด็ก
เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนคาร์ซีท
คาร์ซีทไม่ได้ใช้งานได้ตลอดไป ควรพิจารณาเปลี่ยนในกรณีต่อไปนี้:
- เมื่อเด็กมีน้ำหนักหรือส่วนสูงเกินขีดจำกัดที่คาร์ซีทรองรับ
- เมื่อใช้งานคาร์ซีทมานานเกินอายุการใช้งานที่ผู้ผลิตแนะนำ (ส่วนใหญ่ 6-10 ปี)
- หากคาร์ซีทเคยผ่านอุบัติเหตุที่มีความรุนแรง
- มีชิ้นส่วนชำรุดหรือสึกหรอจนไม่สามารถซ่อมแซมได้
- เมื่อต้องการเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน เช่น จากแบบกระเช้าเป็นแบบหันหน้า
สรุป: คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ควรเลือกอย่างไร
การเลือกคาร์ซีทที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแต่ละครอบครัว ทั้งในด้านงบประมาณ ช่วงอายุของเด็ก และลักษณะการใช้งาน สามารถสรุปแนวทางการเลือกได้ดังนี้:
- สำหรับเด็กแรกเกิด – 1 ปี: เลือกคาร์ซีทแบบกระเช้าหรือแบบหันหลังชนเบาะ เช่น DAIICHI Lead i-Size
- สำหรับการใช้งานระยะยาว: เลือกแบบ All-in-One ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามช่วงวัย เช่น Graco 4Ever หรือ Chicco Fit360
- สำหรับความสะดวกสบายสูงสุด: เลือกรุ่นที่หมุนได้ 360 องศา เช่น Recaro Salia Elite, Nuna Revv หรือ Cozy N Safe Apollo
- สำหรับงบประมาณจำกัด: PapaMama Baby&mama หรือ MAXX CAR SEAT เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
- สำหรับเด็กโต (3 ปีขึ้นไป): Fico Booster Seat เป็นทางเลือกที่ราคาไม่แพงและใช้งานง่าย
ที่สำคัญที่สุด การเลือกคาร์ซีทควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก โดยเลือกรุ่นที่ได้รับมาตรฐานและติดตั้งให้ถูกต้อง เพื่อให้ลูกน้อยเดินทางได้อย่างปลอดภัยที่สุด