
ถ้าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กำลังมองหาจุกหลอกให้ลูกน้อย แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกแบบไหนดี ระหว่างหัวกลมหรือหัวแบน แต่ละยี่ห้อมีข้อดีข้อเสียอย่างไร บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างจุกหลอกแต่ละแบบ พร้อมแนะนำ 10 แบรนด์จุกหลอกยอดนิยมที่น่าสนใจในปี 2025 ซึ่งมีทั้งคุณภาพดี ปลอดภัย และได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. เพื่อให้คุณเลือกได้ตรงกับความต้องการของลูกน้อย
จุกหลอกคืออะไร และดีหรือไม่สำหรับเด็ก
จุกหลอก หรือที่เรียกกันว่า “จุกนมหลอก” เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาให้ทารกดูดเพื่อเสริมสร้างความผ่อนคลายและตอบสนองความต้องการในการดูดของเด็กทารก โดยไม่ได้ให้อาหารหรือนม บางครั้งเรียกว่า “จุกดูดเล่น” หรือ “หัวนมยางดูดเล่น”
ประโยชน์ของจุกหลอก
- ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย – ทารกมีความต้องการในการดูดตามธรรมชาติ การใช้จุกหลอกช่วยตอบสนองความต้องการนี้
- ลดอาการหงุดหงิด – สามารถช่วยปลอบประโลมเด็กเมื่อร้องไห้หรืออารมณ์ไม่ดี
- ช่วยในการนอน – จุกหลอกบางแบบออกแบบมาเฉพาะสำหรับการนอน ช่วยให้ทารกสงบและหลับง่ายขึ้น
- ลดความเสี่ยงของ SIDS – มีงานวิจัยบางชิ้นพบว่าการใช้จุกหลอกขณะนอนอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตเฉียบพลันในทารก (SIDS)
- บรรเทาอาการคันเหงือก – ช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายในช่วงที่ฟันกำลังขึ้น
ข้อควรระวังในการใช้จุกหลอก
- ไม่ควรใช้เพื่อทดแทนการให้นม – จุกหลอกไม่ควรใช้เพื่อเลื่อนเวลาการให้นมหรือทดแทนการให้นม
- อาจมีผลต่อการเรียงตัวของฟัน – การใช้จุกหลอกเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อการเรียงตัวของฟันได้ จึงควรเลือกแบบที่ออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบนี้
- ความสะอาด – ต้องทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- อาจรบกวนการให้นมแม่ – ในช่วงแรกของการเริ่มให้นมแม่ (1-4 สัปดาห์) อาจทำให้เด็กสับสนกับการดูดจากเต้านมได้
จุกหลอกหัวกลมและหัวแบน แตกต่างกันอย่างไร
ในตลาดมีจุกหลอกหลายรูปทรง แต่ที่นิยมหลักๆ คือแบบหัวกลมและหัวแบน ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีและการใช้งานที่แตกต่างกัน
จุกหลอกหัวกลม (Cherry Shape)
ข้อดี:
- ออกแบบให้คล้ายกับหัวนมแม่ตอนที่ทารกดูด
- เหมาะสำหรับทารกที่คุ้นเคยกับการดูดนมแม่
- ส่วนมากใช้ได้ดีในช่วงกลางวัน
- ทารกส่วนใหญ่มักคุ้นเคยและยอมรับได้ง่าย
ข้อเสีย:
- อาจไม่เหมาะกับเด็กบางคนที่มีลักษณะเพดานปากแบนหรือต้องการการสนับสนุนพิเศษ
- อาจทำให้เกิดแรงกดที่มากเกินไปบนเพดานปากในบางกรณี
จุกหลอกหัวแบน (Orthodontic Shape)
ข้อดี:
- ออกแบบเพื่อลดผลกระทบต่อการเรียงตัวของฟัน
- เหมาะสำหรับการใช้ในช่วงกลางคืนและการนอน
- รองรับรูปร่างของปากและลิ้นทารกได้ดี
- ลดแรงกดบนเพดานปาก
ข้อเสีย:
- เด็กบางคนอาจไม่ชอบรูปทรงนี้
- อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวหากเด็กเคยใช้จุกแบบอื่นมาก่อน
เลือกแบบไหนดี?
- สำหรับเด็กแรกเกิด-3 เดือน: สามารถเริ่มต้นได้ทั้งสองแบบ แต่หากให้นมแม่ อาจเริ่มจากแบบหัวกลมเพื่อความคุ้นเคย
- สำหรับเด็ก 3-6 เดือน: หากเริ่มมีฟันขึ้น อาจพิจารณาแบบหัวแบนเพื่อลดผลกระทบต่อการเรียงตัวของฟัน
- สำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไป: จุกหลอกหัวแบนอาจเหมาะสมกว่าในระยะยาว
- ทางเลือกที่ดี: มีจุกหลอกบางยี่ห้อที่ทำแบบ 2-in-1 มีทั้งแบบกลางวัน (หัวกลม) และกลางคืน (หัวแบน) ในชุดเดียวกัน
วิธีเลือกจุกหลอกให้เหมาะกับลูกน้อย
1. พิจารณาช่วงอายุ
จุกหลอกมีหลายขนาดตามช่วงอายุของเด็ก ควรเลือกให้เหมาะสม:
- Size S – สำหรับทารกแรกเกิด-3 เดือน
- Size M – สำหรับทารก 3-6 เดือน
- Size L – สำหรับทารก 6-18 เดือน
2. วัสดุที่ใช้ผลิต
- ซิลิโคนทางการแพทย์ – นุ่ม ทนทาน ง่ายต่อการทำความสะอาด เหมาะสำหรับเด็กทุกวัย
- ยางธรรมชาติ – มีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง ให้ความรู้สึกคล้ายเต้านมแม่มากกว่า แต่อาจเกิดอาการแพ้ได้ในเด็กบางคน
3. มาตรฐานความปลอดภัย
เลือกจุกหลอกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) ในประเทศไทย มีการกำหนดมาตรฐานจุกหลอกไว้ดังนี้:
- มอก. 1025-2539
- มอก. 1025-2562
- มอก. 969-2533
- มอก. 969-2562
4. การระบายอากาศ
จุกหลอกที่มีระบบระบายอากาศดีจะช่วยลดโอกาสเกิดผื่นแพ้บริเวณรอบปาก สังเกตที่แป้นของจุกหลอกว่ามีช่องระบายอากาศหรือไม่
5. การทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อ
ควรเลือกจุกหลอกที่ง่ายต่อการทำความสะอาด บางรุ่นมาพร้อมกล่องเก็บที่สามารถใช้ในการฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้
รวม 10 แบรนด์จุกหลอกยอดนิยม ปี 2025
1. Pigeon – จุกนมหลอก Skin Friendly S/M/L

ราคา: ประมาณ 161 บาท
จุดเด่น:
- ออกแบบโดยทันตแพทย์เด็กจากประเทศญี่ปุ่น
- รุ่น Skin Friendly ออกแบบพิเศษสำหรับทารกที่มีปัญหาผื่นแพ้
- มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ลดพื้นที่สัมผัสกับผิวหนัง
- จุกนุ่มหนาเพียง 1.2 มม. ไม่กระทบต่อการเรียงตัวของฟัน
- น้ำหนักเบาเพียง 7.2 กรัม
- ได้รับมาตรฐาน มอก. 1025-2562
- มี 3 ขนาดตามช่วงอายุเด็ก (Size S, M, L)
ข้อควรพิจารณา:
- เป็นจุกหลอกหัวกลม เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
- อาจมีราคาสูงกว่าแบรนด์ทั่วไปในท้องตลาด
2. Philips Avent – จุกนมหลอก รุ่น Ultra Air

ราคา: ประมาณ 290 บาท
จุดเด่น:
- น้ำหนักเบาและมีรูระบายอากาศขนาดใหญ่พิเศษ
- ออกแบบตามธรรมชาติของเพดานปาก ฟัน และเหงือก
- มาพร้อมกล่องบรรจุที่ใช้เป็นที่เก็บและเครื่องฆ่าเชื้อไมโครเวฟได้
- ปลอดสาร BPA
- บรรจุ 2 ชิ้นต่อแพ็ค
- ดีไซน์ทันสมัย มีสีสันสวยงาม
ข้อควรพิจารณา:
- ราคาค่อนข้างสูง
- มีตัวเลือกลวดลายน้อย
3. Mombella – จุกหลอกหมีโคอาล่าสำหรับกลางคืน

ราคา: ประมาณ 169 บาท
จุดเด่น:
- ผลิตจากซิลิโคนฟู้ดเกรดชิ้นเดียวตั้งแต่จุกจนถึงมือจับ
- น้ำหนักเพียง 9 กรัม เบาที่สุดในกลุ่มสินค้าประเภทเดียวกัน
- จุกทรงแบนออกแบบมาเพื่อความสบายขณะทารกหลับ
- มีช่องระบายอากาศ 4 จุด ลดความชื้นและป้องกันผื่นแดง
- ทำความสะอาดง่าย ไม่มีชิ้นส่วนหรือมุมอับ
- ทนความร้อนสูง สามารถต้ม นึ่ง เข้าไมโครเวฟ
- ได้รับการรับรองจาก FDA (อเมริกา), CE (ยุโรป) และ มอก.
- มาพร้อมกล่องใส่จุกหลอกป้องกันฝุ่น
ข้อควรพิจารณา:
- เป็นจุกหลอกแบบหัวแบน เหมาะสำหรับการใช้งานตอนกลางคืน
- ดีไซน์เป็นรูปสัตว์ อาจไม่เหมาะกับเด็กบางคน
4. MAM – จุกหลอก รุ่น Perfect 2-6m

ราคา: ประมาณ 213-298 บาท
จุดเด่น:
- พัฒนาโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟัน
- นวัตกรรม Dento-Flex ที่เน้นความบางและนุ่มกว่าจุกนมหลอกทั่วไป
- คอของจุกบางเพียง 2.28 มิลลิเมตร บางกว่าแบรนด์อื่น 53-78%
- ผ่านการทดสอบโดย Dental University Clinic of Vienna
- มีรูระบายอากาศขนาดใหญ่ ดีต่อผิวหนังบริเวณรอบปาก
- มาพร้อมกล่องบรรจุที่ใช้ฆ่าเชื้อในไมโครเวฟได้
- ได้รับมาตรฐาน มอก. 969-2533
ข้อควรพิจารณา:
- ราคาแต่ละสีอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น
- แพ็คละ 1 ชิ้น ซึ่งน้อยกว่าบางแบรนด์ที่มี 2 ชิ้นต่อแพ็ค
5. Nuebabe – จุกหลอก ซิลิโคนนุ่ม เสมือนหัวนมแม่

ราคา: ประมาณ 29-39 บาท
จุดเด่น:
- ผลิตจากซิลิโคนบริสุทธิ์คุณภาพดี
- มีทั้งแบบหัวซิลิโคนทรงกลมและทรงแบน
- ดีไซน์การ์ตูนสีสันสดใสน่ารัก
- จุกดูดจับได้ถนัดมือ มีห่วงสำหรับใส่สายคล้อง
- ปลอดสาร BPA
- เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิด
- ได้รับมาตรฐาน มอก. 1025-2539
- ราคาประหยัดที่สุดในกลุ่ม
ข้อควรพิจารณา:
- คุณภาพอาจไม่เทียบเท่าแบรนด์ระดับพรีเมียม
- อายุการใช้งานอาจน้อยกว่าแบรนด์ที่มีราคาสูงกว่า
6. Tommee Tippee – จุกหลอก Cherry Soother

ราคา: ประมาณ 316 บาท
จุดเด่น:
- จุกดูดผลิตจากยางพาราธรรมชาติ มีความอ่อนนุ่มและยืดหยุ่นสูง
- ให้ความรู้สึกเหมือนเต้านมแม่
- รูปทรงโค้งมนคล้ายลูกเชอร์รี่
- ใช้งานได้ในทุกด้าน ไม่ว่าแป้นจุกจะหมุนไปทางไหน
- ปลอดสาร BPA
- แพ็คคู่ 2 ชิ้น
- มีหลายขนาดตามช่วงอายุ: 0-6 เดือน, 6-18 เดือน, 18-36 เดือน
ข้อควรพิจารณา:
- อายุการใช้งานประมาณ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
- ทำจากยางธรรมชาติ อาจทำให้เกิดอาการแพ้ในเด็กบางคน
- ราคาค่อนข้างสูง
7. Berma Baby – จุกหลอกซิลิโคน ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

ราคา: ประมาณ 49-99 บาท
จุดเด่น:
- ผลิตจากวัสดุ PP + ซิลิโคนคุณภาพดี
- มีทั้งแบบจุกกลางวันและกลางคืน
- จุกกลางคืนช่วยให้เด็กฝึกหายใจทางจมูกทางเดียว
- วัสดุทนทานต่อการกัด
- ไม่กดทับใบหน้า ไม่ทำให้ลิ้นแดง จมูกแดง หรือปากแดง
- บรรเทาอาการคันเหงือกและ Over feeding ของทารก
- ไม่มีอันตรายต่อฟันน้ำนม
- มาพร้อมกล่องใส่
ข้อควรพิจารณา:
- ไม่ระบุหมายเลข มอก.
- ควรนึ่งหรืออบฆ่าเชื้อก่อนใช้งาน
8. Nuebabe – จุกดูดเล่น 2in1 Day & Night

ราคา: ประมาณ 90-95 บาท
จุดเด่น:
- แพ็ค 2 ชิ้น มีทั้งหัวกลมและหัวแบนในชุดเดียว
- หัวทรงกลมเหมาะสำหรับกลางวัน (Cherry Shape)
- หัวทรงแบนเหมาะสำหรับกลางคืน (Orthodontic)
- มีลวดลายการ์ตูนน่ารัก สีสันสดใส
- จับถนัดมือ มีห่วงสำหรับใส่สายคล้อง
- ปลอดสาร BPA
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด
- ได้รับมาตรฐาน มอก. 1025-2562
- มาพร้อมกล่องเก็บ
- ราคาคุ้มค่า
ข้อควรพิจารณา:
- เด็กบางคนอาจไม่ชอบทั้งสองแบบ
- คุณภาพอาจไม่สูงเท่าแบรนด์พรีเมียม
9. Pigeon – FunFriends Pacifier

ราคา: ประมาณ 165 บาท
จุดเด่น:
- ออกแบบให้พอดีกับรูปปาก
- ปรับองศาของจุกให้เอียง 10 องศา ซึ่งเหมาะสมต่อการดูดของเด็ก
- โคนจุกเป็นรูปวงรี ทำให้ดูดเข้าปากได้ง่าย
- จุกนุ่ม หนาเพียง 1.2 มม. ไม่กระทบต่อการเรียงตัวของฟัน
- ทารกดูดเข้าปากได้ดี ไม่หลุดง่าย ไม่ต้องพยุงจุก
- น้ำหนักเบาเพียง 7.2 กรัม
- มี 3 ขนาดตามช่วงอายุ
- ได้รับมาตรฐาน มอก. 1025-2562
- ดีไซน์น่ารัก มีหลายลาย
ข้อควรพิจารณา:
- เป็นจุกแบบหัวกลม อาจไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในช่วงกลางคืน
- ราคาปานกลาง
10. Hegen – จุกนม Slow Flow

ราคา: ประมาณ 456 บาท
จุดเด่น:
- ออกแบบให้เปลี่ยนโหมดของขวนนมได้อย่างต่อเนื่องตามวัย
- ใช้ซิลิโคนที่อ่อนนุ่มและมีรูปทรงใกล้เคียงนมแม่
- ตำแหน่งของจุกนมไม่อยู่ตรงกลางเพื่อให้การยกเอียงมีองศาที่พอดี
- ลดการไหลย้อนกลับของอากาศ
- ลดความเสี่ยงของการอักเสบของหูชั้นกลาง
- ลดปริมาณอากาศที่จะเข้าไปในท้องของเด็ก
- ได้รับมาตรฐาน มอก. 969-2562
- บรรจุ 2 ชิ้นต่อแพ็ค
ข้อควรพิจารณา:
- ราคาสูงที่สุดในกลุ่ม
- เป็นจุกนมสำหรับขวดนม ไม่ใช่จุกหลอกโดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Hegen อยู่แล้ว
จุกหลอกดีไหม? คำถามที่พบบ่อย
1. จุกหลอกทำให้ฟันเด็กยื่นหรือไม่?
การใช้จุกหลอกเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลต่อการเรียงตัวของฟันได้ โดยเฉพาะถ้าใช้จุกหลอกแบบหัวกลมที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทันตกรรม ดังนั้นควรเลือกจุกหลอกที่ออกแบบโดยคำนึงถึงพัฒนาการของฟันและควรเลิกใช้จุกหลอกเมื่อเด็กอายุประมาณ 2-4 ปี
2. ควรเริ่มให้ลูกใช้จุกหลอกเมื่อไหร่?
หากต้องการให้ลูกใช้จุกหลอก ควรรอให้การให้นมแม่เป็นไปอย่างราบรื่น (ประมาณ 3-4 สัปดาห์หลังคลอด) เพื่อป้องกันภาวะสับสนหัวนม (nipple confusion) ซึ่งอาจทำให้เด็กไม่ยอมดูดนมจากเต้า อย่างไรก็ตาม บางทารกอาจไม่สับสน จึงสามารถใช้จุกหลอกได้ตั้งแต่แรกเกิด คำแนะนำที่ดีที่สุดคือปรึกษากับกุมารแพทย์หรือที่ปรึกษานมแม่ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณและลูกน้อย
จุกหลอกมีประโยชน์ในการช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย ลดอาการหงุดหงิด ช่วยในการนอน และบรรเทาอาการคันเหงือกในเด็กทารก แต่ควรระวังไม่ใช้เพื่อทดแทนการให้นมและควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ แบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงในปี 2025 ได้แก่ Pigeon ด้วยเทคโนโลยี Skin Friendly ที่ออกแบบสำหรับเด็กที่มีปัญหาผื่นแพ้ Mombella กับจุกหลอกรูปสัตว์น่ารักที่น้ำหนักเบาเพียง 9 กรัม และ Nuebabe ที่มีทั้งแบบ 2-in-1 ทั้งหัวกลมและหัวแบนในชุดเดียวกันพร้อมกล่องเก็บในราคาที่คุ้มค่า