เครื่องทำความชื้นเป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้กันมากขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ซึ่งมักทำให้อากาศแห้งและส่งผลต่อผิวพรรณและระบบทางเดินหายใจ ด้วยคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับอากาศ เครื่องทำความชื้นจึงช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองที่เกิดจากอากาศแห้ง เช่น คอแห้ง ผิวแห้ง และอาการภูมิแพ้ต่างๆ
บทความนี้ เราได้รวบรวม วิธีการเลือกเครื่องทำความชื้น ให้เหมาะกับความต้องการของคุณ และ 10 เครื่องทำความชื้น จากยี่ห้อยอดนิยม พร้อมฟังก์ชันเสริมต่างๆ ที่น่าสนใจมาแนะนำ เพื่อให้คุณเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่า
เครื่องทำความชื้นยี่ห้อไหนดี ข้อดีข้อเสียของมัน
วิธีการเลือกเครื่องทำความชื้น
การเลือกเครื่องทำความชื้นให้เหมาะกับความต้องการ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. พิจารณาความจุถังน้ำและระยะเวลาการใช้งาน
ความจุถังน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อระยะเวลาการใช้งานของเครื่องทำความชื้น การเลือกรุ่นที่มีถังน้ำขนาดใหญ่จะช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน ไม่ต้องเติมน้ำบ่อย
- ถังน้ำความจุ 3-4 ลิตร เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กถึงกลาง ให้เวลาใช้งานประมาณ 12-30 ชั่วโมง
- ถังน้ำความจุ 4-5 ลิตร ให้เวลาใช้งานที่ยาวนานขึ้น ประมาณ 30-45 ชั่วโมง เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่หรือต้องการใช้งานข้ามคืน
- อัตราการทำความชื้น ควรพิจารณาด้วยว่าเครื่องสามารถผลิตละอองน้ำได้เท่าไร โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 300-680 มล./ชม.
2. ตรวจสอบระบบการทำงานและการควบคุม
การเลือกเครื่องทำความชื้นที่มีระบบควบคุมที่เหมาะสมจะช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการ
- การปรับระดับความชื้น ควรเลือกรุ่นที่สามารถปรับระดับความเข้มข้นของละอองน้ำได้หลายระดับ
- หน้าจอแสดงผล รุ่นที่มีหน้าจอ LCD แสดงค่าความชื้นปัจจุบันและการตั้งค่าต่างๆ ช่วยให้ควบคุมการทำงานได้แม่นยำ
- ระบบตั้งเวลา ฟังก์ชันตั้งเวลาปิดอัตโนมัติช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มความปลอดภัย
- ระบบอัตโนมัติ เครื่องที่มีเซ็นเซอร์วัดความชื้นและปรับการทำงานอัตโนมัติช่วยรักษาระดับความชื้นให้เหมาะสม
3. พิจารณาเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อและระบบกรอง
เทคโนโลยีการฆ่าเชื้อมีผลต่อคุณภาพอากาศและความปลอดภัยในการใช้งาน โดยควรพิจารณาดังนี้
- เทคโนโลยีซิลเวอร์ไอออน ช่วยยับยั้งแบคทีเรียในน้ำ ป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย
- แสง UV หรือแสงสีน้ำเงินอมม่วง สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ตัวกรองน้ำ บางรุ่นมีระบบกรองน้ำเพื่อลดแคลเซียมและแร่ธาตุต่างๆ ทำให้ละอองน้ำสะอาดยิ่งขึ้น
- ระบบป้องกันการขาดน้ำ ช่วยปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อน้ำหมด เพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งาน
4. พิจารณาการออกแบบและการใช้งาน
รูปแบบการออกแบบและความสะดวกในการใช้งานเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเลือกเครื่องทำความชื้น
- การเติมน้ำ ควรเลือกรุ่นที่เติมน้ำได้ง่าย บางรุ่นสามารถเติมน้ำจากด้านบนโดยไม่ต้องถอดถังน้ำ
- การทำความสะอาด เลือกรุ่นที่ออกแบบให้ทำความสะอาดง่าย มีช่องปากกว้างพอให้มือเข้าถึงเพื่อล้างทำความสะอาด
- ระดับเสียง เครื่องที่มีระดับเสียงต่ำ (น้อยกว่า 35-38 เดซิเบล) เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอน
- ขนาดและการวางตำแหน่ง พิจารณาพื้นที่ที่จะวางเครื่อง และเลือกขนาดที่เหมาะสม
5. ตรวจสอบฟังก์ชันเสริมและเทคโนโลยีพิเศษ
ฟังก์ชันเสริมและเทคโนโลยีพิเศษช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการใช้งาน
- ช่องใส่น้ำมันหอมระเหย บางรุ่นมีช่องสำหรับหยดน้ำมันหอมระเหย ช่วยให้ละอองน้ำมีกลิ่นหอม
- การเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน รุ่นอัจฉริยะสามารถควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้
- ไฟ LED บางรุ่นมีไฟ LED ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
- มุมหมุน 360 องศา ช่วยกระจายละอองน้ำได้ทั่วถึงทั้งห้อง
10 เครื่องทำความชื้น ยี่ห้อไหนดี ให้ความชุ่มชื้น ใช้งานสะดวก
เครื่องทำความชื้นต่อไปนี้ได้รับความนิยมและมาจากหลากหลายยี่ห้อที่มีคุณภาพ โดยแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณ
No.1 Xiaomi Humidifier 2 Lite
No.1 Xiaomi Humidifier 2 Lite
ราคาอ้างอิง
428 บาท
ราคาต่ำ
ถังน้ำความจุสูง เทคโนโลยีป้องกันแบคทีเรีย เติมน้ำง่าย
- ความจุถังน้ำ 4 ลิตร ใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 30 ชั่วโมง
- เทคโนโลยีป้องกันแบคทีเรียซิลเวอร์ไอออน กำจัดแบคทีเรียได้ถึง 99.9%
- อัตราการทำความชื้น 300 มล./ชม. ด้วยละอองน้ำขนาดเล็ก
- ดีไซน์การเติมน้ำด้านบนทำให้ใช้งานง่าย ไม่ต้องเปิดฝา
- ทำงานเงียบ มีเสียงรบกวนเพียง 38 dB(A)
| คุณสมบัติ |
รายละเอียด |
| ความจุถังน้ำ |
4 ลิตร |
| อัตราการทำความชื้น |
300 มล./ชม. |
| ระดับเสียง |
38 dB(A) |
| ระยะเวลาการทำงาน |
30 ชั่วโมง |
| การป้องกันแบคทีเรีย |
ซิลเวอร์ไอออน (99.9%) |
No.2 Xiaomi Mijia Smart Air Humidifier 4.5L
No.2 Xiaomi Mijia Smart Air Humidifier 4.5L
ราคาอ้างอิง
1,379 บาท
ราคาค่อนข้างสูง
ความจุถังน้ำขนาดใหญ่ เชื่อมต่อแอพได้ มีช่องใส่น้ำมันหอมระเหย
- ถังน้ำความจุ 4.5 ลิตร ทำความชื้นได้ต่อเนื่องนานถึง 32 ชั่วโมง
- แสงสีน้ำเงินอมม่วงฆ่าเชื้อแบคทีเรียในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- อัตราการทำความชื้น 350 มล./ชม. ทำงานเงียบเพียง 32 dB(A)
- มีช่องใส่น้ำมันหอมระเหย (อโรม่า) ด้านหลังเครื่อง
- เชื่อมต่อกับแอพ Mi Home ควบคุมการทำงานและตั้งค่าความชื้นเป้าหมายได้
| คุณสมบัติ |
รายละเอียด |
| ความจุถังน้ำ |
4.5 ลิตร |
| อัตราการทำความชื้น |
350 มล./ชม. |
| ระดับเสียง |
32 dB(A) |
| ระยะเวลาการทำงาน |
32 ชั่วโมง |
| การเชื่อมต่อ |
แอพ Mi Home |
No.3 MI Smart Anti-bacterial Humidifier 2
No.3 MI Smart Anti bacterial Humidifier 2
ราคาอ้างอิง
1,321 บาท
ราคาค่อนข้างสูง
เทคโนโลยีฆ่าเชื้อแบคทีเรีย มีช่องอโรม่า เชื่อมต่อแอพได้
- ถังน้ำความจุ 4.5 ลิตร ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 32 ชั่วโมง
- มีแสงสีน้ำเงินอมม่วงฆ่าเชื้อแบคทีเรียในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีกล่องใส่น้ำมันหอมระเหยแยกต่างหาก ไม่ต้องใส่ลงในถังเก็บน้ำโดยตรง
- สามารถเชื่อมต่อกับแอพ Mi Home เพื่อควบคุมและตรวจสอบความชื้น
- มีระบบป้องกันความชื้นเกิน ปิดอัตโนมัติเมื่อความชื้นสูงเกิน 85%
| คุณสมบัติ |
รายละเอียด |
| ความจุถังน้ำ |
4.5 ลิตร |
| อัตราการทำความชื้น |
350 มล./ชม. |
| ระดับเสียง |
32 dB(A) |
| กำลังไฟ |
28W |
| การเชื่อมต่อ |
แอพ Mi Home |
No.4 Xiaomi Humidifier 2
No.4 Xiaomi Humidifier 2
ราคาอ้างอิง
555 บาท
ราคาต่ำ
ดีไซน์สวยงาม ประสิทธิภาพสูง ต้านเชื้อแบคทีเรีย
- ถังน้ำความจุ 4 ลิตร สามารถทำความชื้นต่อเนื่องได้ 30 ชั่วโมง
- มีเทคโนโลยีไอออนลบที่ช่วยลดไฟฟ้าสถิตและลดการชี้ฟู
- อัตราการทำความชื้น 300 มล./ชม. ละอองน้ำขนาดเล็กระดับไมครอน
- ซิลเวอร์ไอออนต้านเชื้อแบคทีเรีย อัตราต้านเชื้อแบคทีเรีย 99.9%
- เสียงรบกวนการทำงานต่ำเพียง 38 dB(A) ไม่รบกวนการนอนหลับ
| คุณสมบัติ |
รายละเอียด |
| ความจุถังน้ำ |
4 ลิตร |
| อัตราการทำความชื้น |
300 มล./ชม. |
| ระดับเสียง |
38 dB(A) |
| ระยะเวลาการทำงาน |
30 ชั่วโมง |
| การป้องกันแบคทีเรีย |
ซิลเวอร์ไอออน |
No.5 เครื่องทำความชื้น realme Air Purifier
No.5 เครื่องทำความชื้น realme Air Purifier
ราคาอ้างอิง
999 บาท
ราคาปานกลาง
ขนาดกะทัดรัด ระบบสัมผัส มีไฟ LED
- ความจุถังน้ำ 3 ลิตร สามารถทำงานต่อเนื่องได้นาน 12 ชั่วโมง
- อัตราการทำความชื้น 300 มล./ชม. เพิ่มความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระดับเสียงต่ำกว่า 36 dB ไม่รบกวนการนอนหลับ
- มีโหมดกลางคืน และระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อใช้งานไปซักระยะ
- มีไฟ LED ที่สามารถเปิด-ปิดได้
| คุณสมบัติ |
รายละเอียด |
| ความจุถังน้ำ |
3 ลิตร |
| อัตราการทำความชื้น |
300 มล./ชม. |
| ระดับเสียง |
<36 dB |
| กำลังไฟ |
25W |
| แรงดันไฟฟ้า |
5V-1A+ |
No.6 BOMIDI 3 IN 1 Air Purifier UH02
No.6 BOMIDI 3 IN 1 Air Purifier UH02
ราคาอ้างอิง
1,970 บาท
ราคาค่อนข้างสูง
ทั้งลดความชื้น เพิ่มความชื้น และฟอกอากาศ
- ระบบ 3 in 1 ลดความชื้น เพิ่มความชื้น และฟอกอากาศในเครื่องเดียว
- มีโหมดอัตโนมัติ ตรวจจับความชื้นโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระดับความชื้นที่เหมาะสม
- มีไฟ LED 7 สี และการตั้งเวลาที่เหมาะสำหรับการใช้ในห้องนอน
- สามารถกรองสารอันตราย เช่น PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความจุถังน้ำ 1 ลิตร เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กถึงกลาง
| คุณสมบัติ |
รายละเอียด |
| ความจุถังน้ำ |
1 ลิตร |
| กำลังไฟ |
28W |
| แรงดันไฟฟ้า |
24V |
| น้ำหนัก |
1.8 กก. |
| การรับประกัน |
6 เดือน |
No.7 Deerma F628S Ultrasonic Air Humidifier
No.7 Deerma F628S Ultrasonic Air Humidifier
ราคาอ้างอิง
689-929 บาท
ราคาปานกลาง
หน้าจอดิจิตอล ถังน้ำขนาดใหญ่ ฆ่าเชื้อในน้ำ
- ถังน้ำความจุ 5 ลิตร ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำบ่อยๆ
- 2 in 1 คือ เพิ่มความชื้น พร้อมฆ่าเชื้อในน้ำ
- มีเซ็นเซอร์จับอุณหภูมิและความชื้นภายในห้อง แสดงผลบนหน้าจอดิจิตอล
- อัตราเพิ่มความชื้น 350 มล./ชม. ทำงานได้สูงสุด 12 ชั่วโมง
- ทำงานเงียบ เสียงรบกวนเพียง 35 dB(A)
| คุณสมบัติ |
รายละเอียด |
| ความจุถังน้ำ |
5 ลิตร |
| อัตราการทำความชื้น |
350 มล./ชม. |
| ระดับเสียง |
35 dB |
| กำลังไฟ |
25W |
| การรับประกัน |
12 เดือน |
No.8 Deerma F600 เครื่องพ่นไอน้ำ
No.8 Deerma F600 เครื่องพ่นไอน้ำ
ราคาอ้างอิง
679 บาท
ราคาต่ำ
ถังน้ำขนาดใหญ่ หัวพ่น 360 องศา สามารถใส่น้ำมันหอมระเหยได้
- ถังน้ำความจุ 5 ลิตร ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 15 ชั่วโมง
- หัวฉีดไอน้ำแบบ 360 องศา กระจายความชื้นได้ทั่วถึง
- มีปุ่มปรับปริมาณหมอก 3 ระดับ (ต่ำ-กลาง-สูง) สูงสุด 340 มล./ชม.
- หน้าจอแสดงอุณหภูมิและความชื้นในห้อง พร้อมฟังก์ชันตั้งเวลาปิดอัตโนมัติ
- ทำงานเงียบ เสียงรบกวนน้อยกว่า 35 dB
| คุณสมบัติ |
รายละเอียด |
| ความจุถังน้ำ |
5 ลิตร |
| อัตราการทำความชื้น |
340 มล./ชม. |
| ระดับเสียง |
<35 dB |
| กำลังไฟ |
25W |
| การรับประกัน |
12 เดือน |
No.9 Deerma DEM-RZ300 เครื่องทำความชื้น
No.9 Deerma DEM RZ300 เครื่องทำความชื้น
ราคาอ้างอิง
2,683 บาท
ราคาสูง
สร้างไอน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูง เชื่อมต่อแอพได้ มีวงแหวนช่วยกระจายไอน้ำ
- สร้างไอน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูง ด้วยจุดเดือดที่อุณหภูมิ 100°C
- ถังเก็บน้ำความจุ 3.8 ลิตร สามารถทำความชื้นได้สูงสุดถึง 19 ชั่วโมง
- ผลิตไอน้ำได้มากถึง 680 มิลลิลิตร/ชั่วโมง สูงที่สุดในรายการนี้
- มี 10 โหมดการทำงาน สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับห้องได้
- รองรับการสั่งงานด้วย Application Mijia
| คุณสมบัติ |
รายละเอียด |
| ความจุถังน้ำ |
3.8 ลิตร |
| อัตราการทำความชื้น |
680 มล./ชม. |
| กำลังไฟ |
500W |
| โหมดการทำงาน |
10 โหมด |
| การเชื่อมต่อ |
แอพ Mijia |
No.10 DEERMA Aroma Diffuser PX310W
No.10 DEERMA Aroma Diffuser PX310W
ราคาอ้างอิง
598 บาท
ราคาต่ำ
3 in 1 กระจายกลิ่นหอม ทำความชื้น และไฟสร้างบรรยากาศ
- 3 IN 1 กระจายกลิ่นหอม ทำความชื้น และไฟสร้างบรรยากาศเหมือนเปลวไฟ
- พ่นละอองน้ำเล็กละเอียด ทำความชื้นอย่างอ่อนโยน ขจัดความแห้งกร้าน
- สามารถเติมน้ำมันหอมระเหยได้ กลิ่นหอมกระจายไปพร้อมกับไอน้ำ
- ตั้งเวลาได้ 3 ระดับ ปิดเครื่องตามเวลาที่ตั้งไว้
- ขนาดกะทัดรัด มีดีไซน์มินิมอล เข้ากับทุกสไตล์การตกแต่ง
| คุณสมบัติ |
รายละเอียด |
| ความจุถังน้ำ |
300 มล. |
| อัตราการทำความชื้น |
11 มล./ชม. |
| กำลังไฟ |
7W |
| แรงดันไฟฟ้า |
5V |
| กระแสไฟในการชาร์จ |
2A |
วิธีการใช้เครื่องทำความชื้นอย่างถูกต้องและปลอดภัย
การใช้งานเครื่องทำความชื้นอย่างถูกต้องจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของเครื่อง ดังนี้
1. การเตรียมพร้อมก่อนใช้งาน
ก่อนใช้เครื่องทำความชื้น ควรเตรียมความพร้อมเพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
- เลือกตำแหน่งที่เหมาะสม วางเครื่องบนพื้นที่ราบเรียบ ห่างจากเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์อย่างน้อย 30 ซม.
- ใช้น้ำที่สะอาด ควรใช้น้ำกรองหรือน้ำต้มที่เย็นแล้ว เพื่อลดการสะสมของแคลเซียมและแร่ธาตุในเครื่อง
- ตรวจสอบระดับความชื้น ระดับความชื้นที่เหมาะสมอยู่ที่ 40-60% หากมีเครื่องวัดความชื้น ควรตรวจสอบก่อนเปิดเครื่อง
- เตรียมอุปกรณ์เสริม เช่น น้ำมันหอมระเหย (สำหรับรุ่นที่รองรับ) หรือน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะสำหรับเครื่องทำความชื้น
2. การปรับตั้งค่าที่เหมาะสมกับสภาพห้อง
การเลือกระดับความชื้นและโหมดการทำงานที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและประหยัดพลังงาน
- ปรับระดับความเข้มข้นของละอองน้ำ เริ่มต้นที่ระดับต่ำหรือปานกลาง แล้วค่อยๆ ปรับเพิ่มตามความต้องการ
- ใช้โหมดอัตโนมัติ สำหรับเครื่องที่มีเซ็นเซอร์วัดความชื้น เพื่อรักษาระดับความชื้นให้เหมาะสมตลอดเวลา
- ตั้งเวลาการทำงาน ควรเปิดเครื่อง 2-3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน และใช้ฟังก์ชันตั้งเวลาปิดอัตโนมัติ
- ปรับทิศทางของละอองน้ำ ให้กระจายทั่วห้อง ไม่พุ่งตรงไปที่เฟอร์นิเจอร์หรือผนังโดยตรง
3. เทคนิคการใช้เครื่องทำความชื้นให้มีประสิทธิภาพ
การใช้เทคนิคที่ถูกต้องจะช่วยให้ได้ความชื้นที่เหมาะสม ประหยัดพลังงาน และยืดอายุการใช้งานของเครื่อง
- เปิดประตูห้อง เล็กน้อยเพื่อระบายอากาศและป้องกันความชื้นสูงเกินไป
- ไม่เปิดเครื่องตลอดวัน ควรเปิดเครื่องเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะในเวลาที่อากาศแห้งมาก
- สังเกตความชื้นบนกระจกหรือหน้าต่าง หากมีหยดน้ำเกาะมากเกินไป แสดงว่าความชื้นสูงเกินไป
- ใช้น้ำมันหอมระเหยอย่างถูกวิธี สำหรับเครื่องที่รองรับ ควรหยดน้ำมันในช่องที่กำหนด ไม่ใส่ลงในถังน้ำโดยตรง
- เปลี่ยนน้ำทุกวัน เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
4. การดูแลรักษาและทำความสะอาดเครื่องทำความชื้น
การดูแลรักษาเครื่องอย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของเครื่องทำความชื้น
- ทำความสะอาดถังน้ำทุกวัน เทน้ำที่เหลือทิ้ง ล้างด้วยน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้ง
- ทำความสะอาดเครื่องสัปดาห์ละครั้ง ล้างถังน้ำด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำ (1:1) เพื่อขจัดคราบตะกรัน
- เปลี่ยนไส้กรองตามกำหนด สำหรับเครื่องที่มีไส้กรอง ควรเปลี่ยนตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตแนะนำ
- เก็บเครื่องอย่างถูกวิธี เมื่อไม่ใช้งานนาน ควรทำความสะอาดให้ทั่ว เช็ดให้แห้งสนิท แล้วเก็บในที่แห้ง
- ตรวจสอบการทำงานสม่ำเสมอ หากมีเสียงผิดปกติหรือประสิทธิภาพลดลง ควรตรวจสอบหรือส่งซ่อม
5. ข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัย
ข้อควรระวังในการใช้เครื่องทำความชื้นเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดี
- อย่าใช้น้ำมันหอมระเหยที่เข้มข้นเกินไป โดยเฉพาะน้ำมันหอมระเหย 100% หรือน้ำยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
- ไม่เติมน้ำระหว่างเครื่องทำงาน ควรปิดเครื่องก่อนเติมน้ำทุกครั้ง
- อย่าให้พื้นที่โดยรอบเปียก หากพบว่ามีน้ำหยดหรือพื้นเปียก ควรลดระดับความชื้นหรือย้ายตำแหน่งเครื่อง
- ตรวจสอบสายไฟ ให้อยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยฉีกขาด และวางให้ห่างจากน้ำ
- ไม่ควรใช้เครื่องทำความชื้นมากเกินไป ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทไม่ดี เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราได้
สรุป: เครื่องทำความชื้นยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับคุณ
เครื่องทำความชื้นเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ ลดอาการระคายเคืองที่เกิดจากอากาศแห้ง เช่น คอแห้ง ผิวแห้ง และอาการภูมิแพ้ต่างๆ จากการรีวิว 10 ยี่ห้อยอดนิยม เราสามารถแบ่งตามความเหมาะสมได้ดังนี้
- งบประมาณต่ำ (ต่ำกว่า 700 บาท): Xiaomi Humidifier 2 Lite, Xiaomi Humidifier 2, Deerma F600, และ DEERMA Aroma Diffuser PX310W เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า มีฟังก์ชันพื้นฐานครบถ้วน ราคาไม่แพง
- งบประมาณปานกลาง (700-1,500 บาท): realme Air Purifier, Deerma F628S, Xiaomi Mijia Smart Air Humidifier และ MI Smart Anti-bacterial Humidifier 2 เป็นตัวเลือกที่มีฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น การเชื่อมต่อแอพ หรือระบบฆ่าเชื้อที่ดีกว่า
- งบประมาณสูง (มากกว่า 1,500 บาท): BOMIDI 3 IN 1 Air Purifier UH02 และ Deerma DEM-RZ300 มีคุณภาพเยี่ยม ฟังก์ชันครบครัน และให้ประสิทธิภาพสูงสุด
การเลือกซื้อควรพิจารณาตามความต้องการส่วนตัว ขนาดห้อง และการใช้งาน โดยสรุปปัจจัยสำคัญได้ดังนี้
- ความจุถังน้ำ: หากต้องการใช้งานต่อเนื่องโดยไม่ต้องเติมน้ำบ่อย ควรเลือกรุ่นที่มีความจุสูง 4-5 ลิตร
- อัตราการทำความชื้น: ยิ่งค่านี้สูง ยิ่งเพิ่มความชื้นในห้องได้เร็ว โดยทั่วไปอยู่ที่ 300-350 มล./ชม. (ยกเว้น Deerma DEM-RZ300 ที่ทำได้ถึง 680 มล./ชม.)
- เทคโนโลยีการฆ่าเชื้อ: ซิลเวอร์ไอออนหรือแสงสีน้ำเงินอมม่วงช่วยให้ละอองน้ำที่พ่นออกมาสะอาดและปลอดภัย
- ระดับเสียง: หากต้องการใช้ในห้องนอน ควรเลือกรุ่นที่มีระดับเสียงต่ำกว่า 38 dB
- ฟังก์ชันพิเศษ: บางรุ่นมีความสามารถในการเชื่อมต่อแอพ ช่องใส่น้ำมันหอมระเหย หรือแม้แต่ความสามารถในการฟอกอากาศเพิ่มเติม
ไม่ว่าคุณจะเลือกยี่ห้อใด เครื่องทำความชื้นจะช่วยให้อากาศในบ้านคุณชุ่มชื้น ทำให้หายใจสะดวกขึ้น ผิวพรรณชุ่มชื้น และลดปัญหาสุขภาพที่เกิดจากอากาศแห้ง