10 เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ ยี่ห้อไหนดี ใช้ทน

10 เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ ยี่ห้อไหนดี ใช้ทน
10 เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ ยี่ห้อไหนดี ใช้ทน

เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากความสะดวกในการใช้งาน น้ำหนักเบา และประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด รวมถึงเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการทำความสะอาดประจำวัน

เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบมีสายและไร้สาย บางรุ่นสามารถดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในเครื่องเดียว และบางรุ่นมีฟีเจอร์พิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด บทความนี้จะแนะนำวิธีเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ และรวบรวม 10 รุ่นยอดนิยมที่มีคุณภาพดี ทนทาน ใช้งานง่าย และคุ้มค่ากับราคา

วิธีเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับให้เหมาะกับการใช้งาน

การเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับให้เหมาะกับความต้องการเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุดและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ต่อไปนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ

พิจารณาประเภทและฟังก์ชันการใช้งาน

เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีจุดเด่นและความเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับทั่วไป: เหมาะสำหรับการดูดฝุ่นบนพื้นและพรม มีทั้งแบบมีสายและไร้สาย ราคาไม่สูงมาก
  • เครื่องดูดฝุ่นและถูพื้น (Wet and Dry Vacuum): สามารถทั้งดูดฝุ่นและดูดของเหลวได้ บางรุ่นมีฟังก์ชันถูพื้น ช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาด เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง
  • เครื่องดูดฝุ่นแบบอเนกประสงค์: สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย เช่น 2-in-1 หรือ 4-in-1 ใช้ได้ทั้งเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับและแบบมือถือ

ตรวจสอบพลังดูดและประสิทธิภาพ

พลังดูดเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาด สามารถพิจารณาได้จาก:

  • กำลังวัตต์ (Watt): เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับทั่วไปมีกำลังวัตต์ตั้งแต่ 300-600W ยิ่งวัตต์สูง พลังดูดยิ่งมาก แต่จะใช้ไฟมากขึ้นด้วย
  • แรงดูด (Pa หรือ AW): เป็นหน่วยวัดพลังดูดที่แม่นยำกว่า เครื่องดูดฝุ่นที่ดีควรมีแรงดูดตั้งแต่ 15,000 Pa หรือ 100 AW ขึ้นไป
  • ความเร็วรอบมอเตอร์ (RPM): บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของมอเตอร์ ยิ่งรอบสูง ประสิทธิภาพในการดูดยิ่งดี เครื่องดูดฝุ่นระดับพรีเมียมอาจมีความเร็วรอบสูงถึง 120,000 RPM

พิจารณาแบตเตอรี่และเวลาการใช้งาน (สำหรับแบบไร้สาย)

สำหรับเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สาย แบตเตอรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา:

  • ความจุแบตเตอรี่: โดยทั่วไปวัดเป็น mAh ยิ่งค่าสูง ระยะเวลาใช้งานยิ่งนาน เครื่องดูดฝุ่นที่ดีควรมีแบตเตอรี่ความจุตั้งแต่ 2,000 mAh ขึ้นไป
  • เวลาใช้งานต่อการชาร์จ: ควรเลือกรุ่นที่ใช้งานได้อย่างน้อย 30 นาทีในโหมดปกติ
  • เวลาในการชาร์จ: เครื่องดูดฝุ่นที่ดีควรใช้เวลาชาร์จไม่เกิน 4-5 ชั่วโมง
  • แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้: เป็นข้อดีสำหรับการใช้งานต่อเนื่อง สามารถสลับแบตเตอรี่ได้เมื่อแบตเตอรี่หมด

ตรวจสอบระบบกรองและการบำรุงรักษา

ระบบกรองที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นและป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจายกลับสู่อากาศ:

  • ระบบกรอง HEPA: สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน ช่วยลดปัญหาภูมิแพ้
  • ระบบไซโคลน: ช่วยแยกฝุ่นออกจากอากาศโดยใช้แรงเหวี่ยง ทำให้พลังดูดไม่ลดลงแม้ใช้งานต่อเนื่อง
  • ไส้กรองที่ล้างทำความสะอาดได้: ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

พิจารณาน้ำหนักและการจัดเก็บ

น้ำหนักและความสะดวกในการจัดเก็บเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการใช้งานประจำวัน:

  • น้ำหนัก: เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับควรมีน้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม เพื่อความสะดวกในการถือใช้งาน
  • ขนาดและการจัดเก็บ: ควรเลือกรุ่นที่มีที่แขวนหรือฐานวางที่กะทัดรัด ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ

ตรวจสอบอุปกรณ์เสริม

อุปกรณ์เสริมจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำความสะอาดในพื้นที่ต่างๆ:

  • หัวดูดหลัก: ควรเหมาะกับพื้นผิวหลายประเภท ทั้งพื้นแข็งและพรม
  • หัวดูดซอกซอน: ช่วยในการทำความสะอาดมุมแคบหรือซอกต่างๆ
  • แปรงดูดฝุ่น: สำหรับทำความสะอาดพื้นผิวที่บอบบาง
  • หัวดูดไรฝุ่น: ช่วยในการกำจัดไรฝุ่นจากที่นอนหรือโซฟา

10 เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับยอดนิยม ใช้ทน คุ้มค่า

ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดของเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ 10 รุ่นยอดนิยมที่มีคุณภาพดี ทนทาน และคุ้มค่าในการใช้งาน

1. Dreame H14 Ultra Wet and Dry Vacuum

1. Dreame H14 Ultra Wet and Dry Vacuum
1. Dreame H14 Ultra Wet and Dry Vacuum

ราคา: 22,590 บาท

จุดเด่น:

  • เทคโนโลยี TangleCut™ ช่วยตัดเส้นผมที่พันกัน 100% ป้องกันการพันกันของเส้นผม
  • ล้างแปรงด้วยน้ำร้อน 100°C ช่วยขจัดคราบสกปรกฝังแน่น
  • เป่าแห้งด้วยลมร้อน 75°C ในเวลาเพียง 5 นาที
  • พลังดูดแรงสูง 20,000 Pa จัดการได้ทั้งสิ่งสกปรกชิ้นเล็กและชิ้นใหญ่
  • สามารถนอนราบเข้าถึงพื้นที่แคบได้ 180° เข้าถึงพื้นที่ใต้เฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย
  • ระบบขับเคลื่อนถอยหลัง GlideWheel ช่วยผ่อนแรงในการทำความสะอาด
  • แปรงลูกกลิ้งเคลือบซิลเวอร์ไอออนช่วยยับยั้งแบคทีเรียได้ถึง 99.99%
  • ควบคุมผ่านแอปสมาร์ทโฟนได้ ปรับการใช้งานได้หลากหลาย
  • มี 4 โหมดการทำงาน: ออโต้, ดูด, อัลตรา และกำหนดเอง

ข้อมูลจำเพาะ:

  • แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 40 นาที
  • ถังเก็บน้ำสะอาด/น้ำที่ใช้แล้ว: 880/650 มล.
  • มีหน้าจอ LED อัจฉริยะ และระบบเสียงแจ้งเตือน
  • ระบบทำความสะอาดตัวเอง

ความคิดเห็นจากผู้ใช้: “ใช้งานง่ายมาก ตัวเคลื่อนขับเคลื่อนไปเองได้แบบเบาๆช่วยผ่อนแรง แต่ถ้าต้องถูกทั้งบ้านก็เมื่อยแขนอยู่คะ ตัวเครื่องดูแข็งแรง ทนทาน รูปแบบสวยงาม แต่ยังพบว่ามีเส้นผมพันแกนลูกกลิ้งอยู่คะ ต้องคอยดึงออกกับมือ

2. Dreame H12 Pro Wet and Dry Vacuum

2. Dreame H12 Pro Wet and Dry Vacuum
2. Dreame H12 Pro Wet and Dry Vacuum

ราคา: 11,790 – 18,990 บาท

จุดเด่น:

  • เครื่องล้างพื้น 6-in-1 ดูดฝุ่น ดูดน้ำ ถูพื้น จบในเครื่องเดียว
  • รุ่น H12 Pro มีกำลังไฟ 300W ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 35 นาที
  • แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6 x 4000mAh ใช้เวลาชาร์จประมาณ 4.5 ชั่วโมง
  • ถังเก็บน้ำสะอาด 900 มล. และถังน้ำใช้แล้ว 700 มล.
  • มีหลายโหมดการทำงาน: โหมดอัตโนมัติ, โหมดอัลตร้า และโหมดดูดน้ำ
  • ลูกกลิ้งแปรงทำความสะอาดขอบถึงขอบสองด้าน
  • มีหน้าจอ LED แสดงสถานะการทำงาน
  • ระบบทำความสะอาดตัวเอง สะดวกในการดูแลรักษา

ความคิดเห็นจากผู้ใช้: “ดีมาก คุณภาพดีมาก ร้านส่งไวมาก ส่งโคตรไว พนักงานขับรถกระบะมาส่งสินค้าเลย สินค้าอยู่ในกล่องสวยงาม ไม่มีอะไรชำรุด ได้ลองใช้สินค้าแล้ว ชอบมาก ดีนะศึกษาจากยูทูบมาแล้ว เลยใช้เป็นเร็ว สินค้าสวยงาม สีน้ำหนัก ไม่ป๋องแป๋ง คือ ดีเลยอ่ะ หรูหรา ไฮโซ”

3. Dreame H12 Dual Wet and Dry Vacuum

3. Dreame H12 Dual Wet and Dry Vacuum
3. Dreame H12 Dual Wet and Dry Vacuum

ราคา: 18,090 บาท

จุดเด่น:

  • เครื่องดูดฝุ่นถูพื้นอเนกประสงค์ 4-in-1 ทั้งแบบเปียกและแห้ง
  • ระบบเป่าแห้งภายใน 30 นาที
  • มาพร้อมอุปกรณ์เสริมครบชุด: หัวดูดไรฝุ่น, หัวดูดแปรงลูกกลิ้งแบบนิ่ม, ก้านต่อเครื่องดูดฝุ่น, หัวดูดซอกซอน 2-in-1
  • รับประกันจากผู้ผลิต 24 เดือน
  • ช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาด เข้าถึงพื้นที่ซอกมุมได้ดี

ความคิดเห็นจากผู้ใช้: “ชีวิตแม่บ้านดีขึ้นเยอะค่ะ คุ้มราคาจากที่เทียบกับหลายๆแบรนด์ บ้านเลี้ยงแมว ปกติต้องดู กวาด แล้วถู ใช้อันนี้คือรอบเดียวจบ ค่อนข้างสะอาดขึ้นกว่าทำความสะอาดบ้านแบบเดิมๆ แมวตกใจ นิดหน่อย มีแท่นวางสำหรับ spare ที่เอาไว้เปลี่ยน เครื่องเดียวจบ”

4. Dreame V10S Cordless Stick Vacuum

4. Dreame V10S Cordless Stick Vacuum
4. Dreame V10S Cordless Stick Vacuum

ราคา: 7,190 บาท

จุดเด่น:

  • เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เทคโนโลยีจับฝุ่นด้วยแสงสีเขียว
  • มอเตอร์ Dreame Space รุ่นใหม่ให้รอบการทำงานสูงถึง 120,000 rpm
  • พลังดูดแรงถึง 20,000 Pa ทำความสะอาดได้ล้ำลึก
  • แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 2500 mAh ใช้งานได้นานถึง 60 นาที
  • มีปุ่มล็อคการทำงาน ใช้งานสะดวกและปลอดภัย
  • หัวแปรงดูดฝุ่นปากแบน เหมาะสำหรับซอกมุมและซอกหน้าต่าง
  • มีที่แขวนแบบติดผนัง ช่วยประหยัดพื้นที่จัดเก็บ
  • ถังเก็บฝุ่นขนาด 600 มล. พร้อมปุ่มเปิดฝาถังเก็บฝุ่นแบบสะดวก
  • ไส้กรองคุณภาพสูง กรองฝุ่นได้ละเอียด ความสามารถในการกรอง 99%

 ข้อมูลจำเพาะ:

  • กำลังดูด: 155 AW หรือ 20,000 Pa
  • แบตเตอรี่: Li-ion 7 x 2500 mAh
  • เวลาชาร์จ: 3.5 ชั่วโมง
  • เวลาทำความสะอาด: 60 นาที
  • ความจุถังเก็บฝุ่น: 0.6 ลิตร
  • ระบบกรอง: แผ่นกรองไซโคลน 12 แผ่น + แผ่นกรอง 5 ชั้น
  • น้ำหนักตัวหลัก: 1.64 กก.

ความคิดเห็นจากผู้ใช้: “ทางร้านจัดส่งสินค้าค่อนข้างไวค่ะ ร้านแพ็คสินค้ามาดีค่ะ ห่อกันกระแทกมาดี ตัวที่ดูดฝุ่นใช้ดีมากค่ะ วัสดุดีมากๆเลย”

5. Dyson V12s Detect Slim Submarine Complete

5. Dyson V12s Detect Slim Submarine Complete
5. Dyson V12s Detect Slim Submarine Complete

ราคา: 36,900 บาท

จุดเด่น:

  • หัวดูดลูกกลิ้งแบบเปียกสำหรับกำจัดคราบที่หกบนพื้นแข็ง
  • หัวดูดพื้น Fluffy Optic™ เผยให้เห็นฝุ่นที่ถูกซ่อนได้มากกว่าเดิม 2 เท่า
  • หน้าจอ LCD แสดงขนาดและปริมาณของอนุภาคฝุ่น
  • ปรับพลังการดูดตามปริมาณฝุ่นอย่างอัจฉริยะ
  • หัวดูด Hair Screw มีแกนขนแปรงทรงกรวยป้องกันการพันกัน
  • หัวดูด Motorbar™ ทำความสะอาดลึกล้ำแบบขอบจรดขอบ
  • มี 3 โหมดการดูด: Auto, Eco และ Boost
  • มอเตอร์ Hyperdymium™ หมุนได้สูงสุดถึง 125,000 รอบต่อนาที
  • ระบบกรองหลายชั้น ดักจับอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้ 99.99%
  • ระบบทิ้งฝุ่นแบบไม่เปื้อนมือ

ข้อมูลจำเพาะ:

  • พลังแรงดูด: 12 AW (โหมด Eco), 23 AW (โหมด Auto) และ 140 AW (โหมด Boost)
  • เวลาชาร์จ: 4 ชั่วโมง
  • กำลังไฟฟ้า: 545 วัตต์
  • ความจุกล่องเก็บฝุ่น: 0.35 ลิตร
  • ระดับความดังของเสียง: 86 เดซิเบล (โหมด Boost) และ 76 เดซิเบล (โหมด Eco)
  • น้ำหนัก: 2.20 กก. (ตัวเครื่อง)
  • รับประกัน 2 ปี

6. Dyson V12 Origin Cordless Vacuum Cleaner

6. Dyson V12 Origin Cordless Vacuum Cleaner
6. Dyson V12 Origin Cordless Vacuum Cleaner

ราคา: 21,700 บาท

จุดเด่น:

  • หัวดูดพื้น Slim Fluffy™ มีขนแปรงไนลอนนิ่มและคาร์บอนไฟเบอร์
  • หัวดูด Hair Screw มีแกนขนแปรงทรงกรวยป้องกันการพันกัน
  • หน้าจอ LCD แสดงข้อมูลการทำงานแบบเรียลไทม์
  • มอเตอร์ Hyperdymium™ หมุนได้สูงสุดถึง 125,000 รอบต่อนาที
  • ระบบกรองหลายชั้น ดักจับอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้ 99.99%
  • เทคโนโลยี Radial Cyclone™ ช่วยให้แรงดูดไม่ตก
  • ควบคุมการดูดจากปุ่มเดียว ไม่ต้องกดค้าง
  • แบตเตอรี่ลิเธียมแบบ Click-in ใช้งานได้นานถึง 60 นาที
  • มาพร้อมแท่นวาง

ข้อมูลจำเพาะ:

  • พลังแรงดูด: 12 AW (โหมด Eco), 23 AW (โหมด Med) และ 140 AW (โหมด Boost)
  • เวลาชาร์จ: 4 ชั่วโมง
  • กำลังไฟฟ้า: 500 วัตต์
  • ความจุกล่องเก็บฝุ่น: 0.35 ลิตร
  • ระดับความดังของเสียง: 86 เดซิเบล (โหมด Boost) และ 76 เดซิเบล (โหมด Eco)
  • น้ำหนัก: 2.20 กก. (ตัวเครื่อง)
  • รับประกัน 2 ปี

7. Dyson V12 Origin Cordless Vacuum Cleaner

7. Dyson V12 Origin Cordless Vacuum Cleaner
7. Dyson V12 Origin Cordless Vacuum Cleaner

(แถมกระเป๋าเก็บอุปกรณ์)

ราคา: 18,900 บาท

จุดเด่น:

  • เครื่องดูดฝุ่นไร้สายดีไซน์ทันสมัย พร้อมกระเป๋าเก็บอุปกรณ์
  • หัวดูดพื้น Slim Fluffy™ มีขนแปรงไนลอนนิ่มและคาร์บอนไฟเบอร์
  • หัวดูด Hair Screw มีแกนขนแปรงทรงกรวยป้องกันการพันกัน
  • หน้าจอ LCD แสดงข้อมูลการทำงานแบบเรียลไทม์
  • มอเตอร์ Hyperdymium™ หมุนได้สูงสุดถึง 125,000 รอบต่อนาที
  • ระบบกรองหลายชั้น ดักจับอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้ 99.99%
  • เทคโนโลยี Radial Cyclone™ ช่วยให้แรงดูดไม่ตก
  • ควบคุมการดูดจากปุ่มเดียว ไม่ต้องกดค้าง
  • แบตเตอรี่ลิเธียมแบบ Click-in ใช้งานได้นานถึง 60 นาที
  • ระบบทิ้งฝุ่นแบบไม่เปื้อนมือ

ข้อมูลจำเพาะ:

  • พลังแรงดูด: 12 AW (โหมด Eco), 23 AW (โหมด Med) และ 140 AW (โหมด Boost)
  • เวลาชาร์จ: 4 ชั่วโมง
  • กำลังไฟฟ้า: 500 วัตต์
  • ความจุกล่องเก็บฝุ่น: 0.35 ลิตร
  • น้ำหนัก: 2.20 กก. (ตัวเครื่อง)
  • รับประกัน 2 ปี

ความคิดเห็นจากผู้ใช้: “จัดส่งเร็วมากกกกกกกก ทดลองใช้หนึ่งครั้ง medium mode ถือว่าดูดแรงดีเหมาะกับใช้ในคอนโดหรือว่าห้องพักหรือดูดฝุ่นในบ้านทั่วไปๆ สะอาดดีนะ แรงดูดดี เครื่องมีน้ำหนักไม่รู้ว่าหนักกว่ายี่ห้ออื่นไหมเพราะเพิ่งเคยใช้รุ่นนี้เป็นเครื่องแรก ถ้าต้องดูดที่สูงเช่นหลังตู้ปวดแขนแน่นอน แต่ถือว่าถูกใจมากเหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้ไม่ต้องใช่ไม้กวาดให้ฝุ่นฟุ้งแล้ว ชอบค่ะ”

8. Deerma DX115C/DX118C Vacuum Cleaner

8. Deerma DX115CDX118C Vacuum Cleaner
8. Deerma DX115CDX118C Vacuum Cleaner

ราคา: 679 บาท

จุดเด่น:

  • เครื่องดูดฝุ่นในบ้านราคาประหยัด แรงดูด 15kPa
  • น้ำหนักเบาเพียง 2 กิโลกรัม สะดวกในการถือใช้งาน
  • เหมาะสำหรับการทำความสะอาดประจำวันในบ้านหรือห้องพัก
  • มีระบบกรอง HEPA ช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก
  • ดีไซน์กะทัดรัด ไม่กินพื้นที่จัดเก็บ
  • ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นราคาประหยัด

ข้อมูลจำเพาะ:

  • ผลิตในประเทศจีน
  • รับประกัน 12 เดือน
  • น้ำหนัก: 2 กิโลกรัม
  • เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น คอนโด อพาร์ทเมนท์

9. Deerma DX700/DX700S เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ 2 in 1

9. Deerma DX700DX700S เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ 2 in 1
9. Deerma DX700DX700S เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ 2 in 1

ราคา: 960 บาท

จุดเด่น:

  • เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ 2 in 1 พลังสูงใช้งานง่าย
  • ขนาดกะทัดรัด ช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโด
  • พลังดูดไซโคลน 600W เทียบเท่าพลังมอเตอร์สูงถึง 4,000W
  • แรงดูดสูงถึง 15,000 Pa ทำความสะอาดได้ทั่วถึง
  • ใช้งานง่าย ทำความสะอาดได้ทั้งในบ้านและรถยนต์
  • มีแผ่นกรองอากาศ 3 ชั้น กรองอนุภาคไรฝุ่นที่เล็กถึง 0.3 ไมครอนได้กว่า 99.97%
  • ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำความสะอาดได้หลากหลาย ตั้งแต่เพดานจรดพื้น
  • สายไฟยาวถึง 4 เมตร พร้อมที่ม้วนเก็บ ทำให้ทำความสะอาดได้ทั่วถึง
  • น้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัม

ข้อมูลจำเพาะ:

  • รุ่น: DEM-DX700
  • วัสดุแปรงชั้น: ABS
  • กำลังไฟ: 600W
  • แรงดันใช้งาน: 220V
  • ความถี่ในการทำงาน: 50Hz
  • ความจุกล่องเก็บฝุ่น: 1 ลิตร
  • การดูด: 15 kPa
  • เสียงรบกวน: 75dB และน้อยกว่า
  • สายไฟ: 4 เมตร
  • ขนาด: 320 x 320 x 90 มม.

ความคิดเห็นจากผู้ใช้: “ออกแบบดี จับถนัดมือ น้ำหนักไม่หนักมาก สีสวย ถ้ากวาดๆ ฝุ่นมารวมกัน แล้วดูด แรงดูดยังไม่แรงเท่าไหร่ ต้องช่วยๆ เครื่องนิด คุณภาพตามราคา แต่ถือว่าโอเค พอใจค่ะ ถ้ามีหัวเปลี่ยน เพิ่มอีกหน่อยจะดีเลย แพ็คมาดี ถือว่าคุ้มอยู่ค่ะ กับราคานี้ ขนส่งไว แต่พึ่งมีเวลา ใช้งานจริง เสียงไม่ดัง ไม่ทำให้รำคาญ ถือว่าผ่าน”

10. Alectric เครื่องดูดฝุ่นมือถือ แรงดูด 16000Pa

10. Alectric เครื่องดูดฝุ่นมือถือ แรงดูด 16000Pa
10. Alectric เครื่องดูดฝุ่นมือถือ แรงดูด 16000Pa

ราคา: 598 บาท

จุดเด่น:

  • เครื่องดูดฝุ่นมือถือราคาประหยัด แรงดูดสูงถึง 16,000 Pa
  • มาพร้อมหัวดูดถึง 11 ชนิด ตอบโจทย์การทำความสะอาดหลากหลายพื้นที่
  • น้ำหนักเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม พกพาสะดวก
  • กรองฝุ่นละเอียดด้วยตัวกรอง HEPA
  • ไส้กรองสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย นำกลับมาใช้ใหม่ได้
  • สายไฟยาว 4.5 เมตร ใช้งานได้สะดวกในพื้นที่กว้าง
  • รับประกันนานถึง 3 ปี

ข้อมูลจำเพาะ:

  • แบรนด์: Alectric
  • รุ่น: Dust VC-A
  • กำลังไฟ: 500W
  • แรงดันไฟ: 220V
  • ความถี่: 50Hz
  • ความจุ: 0.8 ลิตร
  • แรงดูด: 16,000 Pa
  • รอบหมุน: 40,000 ต่อนาที
  • ระบบชั้นกรอง: 5 ชั้น
  • ระดับเสียง: 65 dB
  • สายยาว: 4.5 เมตร
  • น้ำหนัก: 1.80 กิโลกรัม
  • ขนาดสินค้า: 22 x 120 ซม.

เปรียบเทียบเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ 10 รุ่นยอดนิยม

รุ่น ราคา (บาท) พลังดูด เวลาใช้งาน น้ำหนัก ฟังก์ชันพิเศษ
Dreame H14 Ultra 22,590 20,000 Pa 40 นาที N/A ตัดเส้นผม 100%, ล้างน้ำร้อน 100°C
Dreame H12 Pro 11,790-18,990 N/A 35 นาที 6.7 กก. ดูดฝุ่นและถูพื้น 6-in-1
Dreame H12 Dual 18,090 N/A N/A N/A อเนกประสงค์ 4-in-1, เป่าแห้ง 30 นาที
Dreame V10S 7,190 20,000 Pa 60 นาที 1.64 กก. มอเตอร์ 120,000 rpm
Dyson V12s 36,900 140 AW 30-60 นาที 2.20 กก. ดูดฝุ่นและถูพื้น, หน้าจอ LCD
Dyson V12 Origin 21,700 140 AW 30-60 นาที 2.20 กก. มอเตอร์ 125,000 rpm, แท่นวาง
Dyson V12 (พิเศษ) 18,900 140 AW 30-60 นาที 2.20 กก. แถมกระเป๋าเก็บอุปกรณ์
Deerma DX115C 679 15,000 Pa N/A 2.0 กก. ราคาประหยัด
Deerma DX700 960 15,000 Pa N/A 2.2 กก. 2-in-1, ราคาประหยัด
Alectric Dust VC-A 598 16,000 Pa N/A 1.8 กก. มีหัวดูด 11 หัว, รับประกัน 3 ปี

คำแนะนำในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ

หลังจากที่ได้รีวิวเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ 10 รุ่นยอดนิยมแล้ว ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำหรับการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นให้เหมาะกับความต้องการของคุณ:

เลือกตามงบประมาณ

  • งบประมาณต่ำ (น้อยกว่า 1,000 บาท): Deerma DX115C, Deerma DX700, Alectric Dust VC-A เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานได้จริง
  • งบประมาณปานกลาง (1,000-10,000 บาท): Dreame V10S เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในช่วงราคานี้ มีประสิทธิภาพสูง แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
  • งบประมาณสูง (มากกว่า 10,000 บาท): Dreame H14 Ultra, Dreame H12 Pro, Dyson V12 Origin เป็นตัวเลือกระดับพรีเมียมที่มีฟังก์ชันการทำงานครบครัน ทนทาน และมีประสิทธิภาพสูง

เลือกตามลักษณะการใช้งาน

  • สำหรับบ้านทั่วไป: Dreame V10S, Dyson V12 Origin เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการดูดฝุ่นทั่วไปในบ้าน
  • สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง: Dyson V12s, Dreame H14 Ultra มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนสัตว์และเส้นผมที่พันกัน
  • สำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก (คอนโด/อพาร์ทเมนท์): Deerma DX115C, Deerma DX700, Alectric Dust VC-A กะทัดรัด ใช้งานง่าย และจัดเก็บไม่กินพื้นที่
  • สำหรับทำความสะอาดทั้งแบบเปียกและแห้ง: Dreame H12 Pro, Dreame H14 Ultra, Dreame H12 Dual, Dyson V12s สามารถดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในเครื่องเดียว

เลือกตามความสะดวกในการใช้งาน

  • แบบไร้สาย: Dreame V10S, Dyson V12 Origin, Dyson V12s สะดวกในการเคลื่อนย้าย ไม่มีสายพันกัน
  • แบบมีสาย: Deerma DX700, Alectric Dust VC-A ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมด ใช้งานได้ต่อเนื่อง

สรุป

เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่มีประโยชน์และตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นราคาประหยัดอย่าง Deerma และ Alectric หรือรุ่นระดับพรีเมียมอย่าง Dreame และ Dyson ต่างก็มีจุดเด่นและความเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป

การเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะสมควรพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งงบประมาณ ลักษณะพื้นที่ใช้งาน ประเภทของพื้นผิว รวมถึงความต้องการพิเศษอื่นๆ เช่น การดูดขนสัตว์ หรือการถูพื้น

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของคุณได้ง่ายขึ้น โดยสรุปแล้ว หากต้องการความคุ้มค่าที่สุด Dreame V10S เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่หากไม่จำกัดงบประมาณและต้องการประสิทธิภาพสูงสุด Dreame H14 Ultra และ Dyson V12s เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด