
เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากความสะดวกในการใช้งาน น้ำหนักเบา และประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด รวมถึงเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการทำความสะอาดประจำวัน
เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบมีสายและไร้สาย บางรุ่นสามารถดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในเครื่องเดียว และบางรุ่นมีฟีเจอร์พิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด บทความนี้จะแนะนำวิธีเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ และรวบรวม 10 รุ่นยอดนิยมที่มีคุณภาพดี ทนทาน ใช้งานง่าย และคุ้มค่ากับราคา
วิธีเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับให้เหมาะกับความต้องการเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุดและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ต่อไปนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ
พิจารณาประเภทและฟังก์ชันการใช้งาน
เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีจุดเด่นและความเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
- เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับทั่วไป: เหมาะสำหรับการดูดฝุ่นบนพื้นและพรม มีทั้งแบบมีสายและไร้สาย ราคาไม่สูงมาก
- เครื่องดูดฝุ่นและถูพื้น (Wet and Dry Vacuum): สามารถทั้งดูดฝุ่นและดูดของเหลวได้ บางรุ่นมีฟังก์ชันถูพื้น ช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาด เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง
- เครื่องดูดฝุ่นแบบอเนกประสงค์: สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย เช่น 2-in-1 หรือ 4-in-1 ใช้ได้ทั้งเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับและแบบมือถือ
ตรวจสอบพลังดูดและประสิทธิภาพ
พลังดูดเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาด สามารถพิจารณาได้จาก:
- กำลังวัตต์ (Watt): เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับทั่วไปมีกำลังวัตต์ตั้งแต่ 300-600W ยิ่งวัตต์สูง พลังดูดยิ่งมาก แต่จะใช้ไฟมากขึ้นด้วย
- แรงดูด (Pa หรือ AW): เป็นหน่วยวัดพลังดูดที่แม่นยำกว่า เครื่องดูดฝุ่นที่ดีควรมีแรงดูดตั้งแต่ 15,000 Pa หรือ 100 AW ขึ้นไป
- ความเร็วรอบมอเตอร์ (RPM): บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของมอเตอร์ ยิ่งรอบสูง ประสิทธิภาพในการดูดยิ่งดี เครื่องดูดฝุ่นระดับพรีเมียมอาจมีความเร็วรอบสูงถึง 120,000 RPM
พิจารณาแบตเตอรี่และเวลาการใช้งาน (สำหรับแบบไร้สาย)
สำหรับเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สาย แบตเตอรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา:
- ความจุแบตเตอรี่: โดยทั่วไปวัดเป็น mAh ยิ่งค่าสูง ระยะเวลาใช้งานยิ่งนาน เครื่องดูดฝุ่นที่ดีควรมีแบตเตอรี่ความจุตั้งแต่ 2,000 mAh ขึ้นไป
- เวลาใช้งานต่อการชาร์จ: ควรเลือกรุ่นที่ใช้งานได้อย่างน้อย 30 นาทีในโหมดปกติ
- เวลาในการชาร์จ: เครื่องดูดฝุ่นที่ดีควรใช้เวลาชาร์จไม่เกิน 4-5 ชั่วโมง
- แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้: เป็นข้อดีสำหรับการใช้งานต่อเนื่อง สามารถสลับแบตเตอรี่ได้เมื่อแบตเตอรี่หมด
ตรวจสอบระบบกรองและการบำรุงรักษา
ระบบกรองที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นและป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจายกลับสู่อากาศ:
- ระบบกรอง HEPA: สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน ช่วยลดปัญหาภูมิแพ้
- ระบบไซโคลน: ช่วยแยกฝุ่นออกจากอากาศโดยใช้แรงเหวี่ยง ทำให้พลังดูดไม่ลดลงแม้ใช้งานต่อเนื่อง
- ไส้กรองที่ล้างทำความสะอาดได้: ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
พิจารณาน้ำหนักและการจัดเก็บ
น้ำหนักและความสะดวกในการจัดเก็บเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการใช้งานประจำวัน:
- น้ำหนัก: เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับควรมีน้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม เพื่อความสะดวกในการถือใช้งาน
- ขนาดและการจัดเก็บ: ควรเลือกรุ่นที่มีที่แขวนหรือฐานวางที่กะทัดรัด ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ
ตรวจสอบอุปกรณ์เสริม
อุปกรณ์เสริมจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำความสะอาดในพื้นที่ต่างๆ:
- หัวดูดหลัก: ควรเหมาะกับพื้นผิวหลายประเภท ทั้งพื้นแข็งและพรม
- หัวดูดซอกซอน: ช่วยในการทำความสะอาดมุมแคบหรือซอกต่างๆ
- แปรงดูดฝุ่น: สำหรับทำความสะอาดพื้นผิวที่บอบบาง
- หัวดูดไรฝุ่น: ช่วยในการกำจัดไรฝุ่นจากที่นอนหรือโซฟา
10 เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับยอดนิยม ใช้ทน คุ้มค่า
ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดของเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ 10 รุ่นยอดนิยมที่มีคุณภาพดี ทนทาน และคุ้มค่าในการใช้งาน
1. Dreame H14 Ultra Wet and Dry Vacuum

ราคา: 22,590 บาท
จุดเด่น:
- เทคโนโลยี TangleCut™ ช่วยตัดเส้นผมที่พันกัน 100% ป้องกันการพันกันของเส้นผม
- ล้างแปรงด้วยน้ำร้อน 100°C ช่วยขจัดคราบสกปรกฝังแน่น
- เป่าแห้งด้วยลมร้อน 75°C ในเวลาเพียง 5 นาที
- พลังดูดแรงสูง 20,000 Pa จัดการได้ทั้งสิ่งสกปรกชิ้นเล็กและชิ้นใหญ่
- สามารถนอนราบเข้าถึงพื้นที่แคบได้ 180° เข้าถึงพื้นที่ใต้เฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย
- ระบบขับเคลื่อนถอยหลัง GlideWheel ช่วยผ่อนแรงในการทำความสะอาด
- แปรงลูกกลิ้งเคลือบซิลเวอร์ไอออนช่วยยับยั้งแบคทีเรียได้ถึง 99.99%
- ควบคุมผ่านแอปสมาร์ทโฟนได้ ปรับการใช้งานได้หลากหลาย
- มี 4 โหมดการทำงาน: ออโต้, ดูด, อัลตรา และกำหนดเอง
ข้อมูลจำเพาะ:
- แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 40 นาที
- ถังเก็บน้ำสะอาด/น้ำที่ใช้แล้ว: 880/650 มล.
- มีหน้าจอ LED อัจฉริยะ และระบบเสียงแจ้งเตือน
- ระบบทำความสะอาดตัวเอง
ความคิดเห็นจากผู้ใช้: “ใช้งานง่ายมาก ตัวเคลื่อนขับเคลื่อนไปเองได้แบบเบาๆช่วยผ่อนแรง แต่ถ้าต้องถูกทั้งบ้านก็เมื่อยแขนอยู่คะ ตัวเครื่องดูแข็งแรง ทนทาน รูปแบบสวยงาม แต่ยังพบว่ามีเส้นผมพันแกนลูกกลิ้งอยู่คะ ต้องคอยดึงออกกับมือ
2. Dreame H12 Pro Wet and Dry Vacuum

ราคา: 11,790 – 18,990 บาท
จุดเด่น:
- เครื่องล้างพื้น 6-in-1 ดูดฝุ่น ดูดน้ำ ถูพื้น จบในเครื่องเดียว
- รุ่น H12 Pro มีกำลังไฟ 300W ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 35 นาที
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6 x 4000mAh ใช้เวลาชาร์จประมาณ 4.5 ชั่วโมง
- ถังเก็บน้ำสะอาด 900 มล. และถังน้ำใช้แล้ว 700 มล.
- มีหลายโหมดการทำงาน: โหมดอัตโนมัติ, โหมดอัลตร้า และโหมดดูดน้ำ
- ลูกกลิ้งแปรงทำความสะอาดขอบถึงขอบสองด้าน
- มีหน้าจอ LED แสดงสถานะการทำงาน
- ระบบทำความสะอาดตัวเอง สะดวกในการดูแลรักษา
ความคิดเห็นจากผู้ใช้: “ดีมาก คุณภาพดีมาก ร้านส่งไวมาก ส่งโคตรไว พนักงานขับรถกระบะมาส่งสินค้าเลย สินค้าอยู่ในกล่องสวยงาม ไม่มีอะไรชำรุด ได้ลองใช้สินค้าแล้ว ชอบมาก ดีนะศึกษาจากยูทูบมาแล้ว เลยใช้เป็นเร็ว สินค้าสวยงาม สีน้ำหนัก ไม่ป๋องแป๋ง คือ ดีเลยอ่ะ หรูหรา ไฮโซ”
3. Dreame H12 Dual Wet and Dry Vacuum

ราคา: 18,090 บาท
จุดเด่น:
- เครื่องดูดฝุ่นถูพื้นอเนกประสงค์ 4-in-1 ทั้งแบบเปียกและแห้ง
- ระบบเป่าแห้งภายใน 30 นาที
- มาพร้อมอุปกรณ์เสริมครบชุด: หัวดูดไรฝุ่น, หัวดูดแปรงลูกกลิ้งแบบนิ่ม, ก้านต่อเครื่องดูดฝุ่น, หัวดูดซอกซอน 2-in-1
- รับประกันจากผู้ผลิต 24 เดือน
- ช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาด เข้าถึงพื้นที่ซอกมุมได้ดี
ความคิดเห็นจากผู้ใช้: “ชีวิตแม่บ้านดีขึ้นเยอะค่ะ คุ้มราคาจากที่เทียบกับหลายๆแบรนด์ บ้านเลี้ยงแมว ปกติต้องดู กวาด แล้วถู ใช้อันนี้คือรอบเดียวจบ ค่อนข้างสะอาดขึ้นกว่าทำความสะอาดบ้านแบบเดิมๆ แมวตกใจ นิดหน่อย มีแท่นวางสำหรับ spare ที่เอาไว้เปลี่ยน เครื่องเดียวจบ”
4. Dreame V10S Cordless Stick Vacuum

ราคา: 7,190 บาท
จุดเด่น:
- เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เทคโนโลยีจับฝุ่นด้วยแสงสีเขียว
- มอเตอร์ Dreame Space รุ่นใหม่ให้รอบการทำงานสูงถึง 120,000 rpm
- พลังดูดแรงถึง 20,000 Pa ทำความสะอาดได้ล้ำลึก
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 2500 mAh ใช้งานได้นานถึง 60 นาที
- มีปุ่มล็อคการทำงาน ใช้งานสะดวกและปลอดภัย
- หัวแปรงดูดฝุ่นปากแบน เหมาะสำหรับซอกมุมและซอกหน้าต่าง
- มีที่แขวนแบบติดผนัง ช่วยประหยัดพื้นที่จัดเก็บ
- ถังเก็บฝุ่นขนาด 600 มล. พร้อมปุ่มเปิดฝาถังเก็บฝุ่นแบบสะดวก
- ไส้กรองคุณภาพสูง กรองฝุ่นได้ละเอียด ความสามารถในการกรอง 99%
ข้อมูลจำเพาะ:
- กำลังดูด: 155 AW หรือ 20,000 Pa
- แบตเตอรี่: Li-ion 7 x 2500 mAh
- เวลาชาร์จ: 3.5 ชั่วโมง
- เวลาทำความสะอาด: 60 นาที
- ความจุถังเก็บฝุ่น: 0.6 ลิตร
- ระบบกรอง: แผ่นกรองไซโคลน 12 แผ่น + แผ่นกรอง 5 ชั้น
- น้ำหนักตัวหลัก: 1.64 กก.
ความคิดเห็นจากผู้ใช้: “ทางร้านจัดส่งสินค้าค่อนข้างไวค่ะ ร้านแพ็คสินค้ามาดีค่ะ ห่อกันกระแทกมาดี ตัวที่ดูดฝุ่นใช้ดีมากค่ะ วัสดุดีมากๆเลย”
5. Dyson V12s Detect Slim Submarine Complete

ราคา: 36,900 บาท
จุดเด่น:
- หัวดูดลูกกลิ้งแบบเปียกสำหรับกำจัดคราบที่หกบนพื้นแข็ง
- หัวดูดพื้น Fluffy Optic™ เผยให้เห็นฝุ่นที่ถูกซ่อนได้มากกว่าเดิม 2 เท่า
- หน้าจอ LCD แสดงขนาดและปริมาณของอนุภาคฝุ่น
- ปรับพลังการดูดตามปริมาณฝุ่นอย่างอัจฉริยะ
- หัวดูด Hair Screw มีแกนขนแปรงทรงกรวยป้องกันการพันกัน
- หัวดูด Motorbar™ ทำความสะอาดลึกล้ำแบบขอบจรดขอบ
- มี 3 โหมดการดูด: Auto, Eco และ Boost
- มอเตอร์ Hyperdymium™ หมุนได้สูงสุดถึง 125,000 รอบต่อนาที
- ระบบกรองหลายชั้น ดักจับอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้ 99.99%
- ระบบทิ้งฝุ่นแบบไม่เปื้อนมือ
ข้อมูลจำเพาะ:
- พลังแรงดูด: 12 AW (โหมด Eco), 23 AW (โหมด Auto) และ 140 AW (โหมด Boost)
- เวลาชาร์จ: 4 ชั่วโมง
- กำลังไฟฟ้า: 545 วัตต์
- ความจุกล่องเก็บฝุ่น: 0.35 ลิตร
- ระดับความดังของเสียง: 86 เดซิเบล (โหมด Boost) และ 76 เดซิเบล (โหมด Eco)
- น้ำหนัก: 2.20 กก. (ตัวเครื่อง)
- รับประกัน 2 ปี
6. Dyson V12 Origin Cordless Vacuum Cleaner

ราคา: 21,700 บาท
จุดเด่น:
- หัวดูดพื้น Slim Fluffy™ มีขนแปรงไนลอนนิ่มและคาร์บอนไฟเบอร์
- หัวดูด Hair Screw มีแกนขนแปรงทรงกรวยป้องกันการพันกัน
- หน้าจอ LCD แสดงข้อมูลการทำงานแบบเรียลไทม์
- มอเตอร์ Hyperdymium™ หมุนได้สูงสุดถึง 125,000 รอบต่อนาที
- ระบบกรองหลายชั้น ดักจับอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้ 99.99%
- เทคโนโลยี Radial Cyclone™ ช่วยให้แรงดูดไม่ตก
- ควบคุมการดูดจากปุ่มเดียว ไม่ต้องกดค้าง
- แบตเตอรี่ลิเธียมแบบ Click-in ใช้งานได้นานถึง 60 นาที
- มาพร้อมแท่นวาง
ข้อมูลจำเพาะ:
- พลังแรงดูด: 12 AW (โหมด Eco), 23 AW (โหมด Med) และ 140 AW (โหมด Boost)
- เวลาชาร์จ: 4 ชั่วโมง
- กำลังไฟฟ้า: 500 วัตต์
- ความจุกล่องเก็บฝุ่น: 0.35 ลิตร
- ระดับความดังของเสียง: 86 เดซิเบล (โหมด Boost) และ 76 เดซิเบล (โหมด Eco)
- น้ำหนัก: 2.20 กก. (ตัวเครื่อง)
- รับประกัน 2 ปี
7. Dyson V12 Origin Cordless Vacuum Cleaner

(แถมกระเป๋าเก็บอุปกรณ์)
ราคา: 18,900 บาท
จุดเด่น:
- เครื่องดูดฝุ่นไร้สายดีไซน์ทันสมัย พร้อมกระเป๋าเก็บอุปกรณ์
- หัวดูดพื้น Slim Fluffy™ มีขนแปรงไนลอนนิ่มและคาร์บอนไฟเบอร์
- หัวดูด Hair Screw มีแกนขนแปรงทรงกรวยป้องกันการพันกัน
- หน้าจอ LCD แสดงข้อมูลการทำงานแบบเรียลไทม์
- มอเตอร์ Hyperdymium™ หมุนได้สูงสุดถึง 125,000 รอบต่อนาที
- ระบบกรองหลายชั้น ดักจับอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้ 99.99%
- เทคโนโลยี Radial Cyclone™ ช่วยให้แรงดูดไม่ตก
- ควบคุมการดูดจากปุ่มเดียว ไม่ต้องกดค้าง
- แบตเตอรี่ลิเธียมแบบ Click-in ใช้งานได้นานถึง 60 นาที
- ระบบทิ้งฝุ่นแบบไม่เปื้อนมือ
ข้อมูลจำเพาะ:
- พลังแรงดูด: 12 AW (โหมด Eco), 23 AW (โหมด Med) และ 140 AW (โหมด Boost)
- เวลาชาร์จ: 4 ชั่วโมง
- กำลังไฟฟ้า: 500 วัตต์
- ความจุกล่องเก็บฝุ่น: 0.35 ลิตร
- น้ำหนัก: 2.20 กก. (ตัวเครื่อง)
- รับประกัน 2 ปี
ความคิดเห็นจากผู้ใช้: “จัดส่งเร็วมากกกกกกกก ทดลองใช้หนึ่งครั้ง medium mode ถือว่าดูดแรงดีเหมาะกับใช้ในคอนโดหรือว่าห้องพักหรือดูดฝุ่นในบ้านทั่วไปๆ สะอาดดีนะ แรงดูดดี เครื่องมีน้ำหนักไม่รู้ว่าหนักกว่ายี่ห้ออื่นไหมเพราะเพิ่งเคยใช้รุ่นนี้เป็นเครื่องแรก ถ้าต้องดูดที่สูงเช่นหลังตู้ปวดแขนแน่นอน แต่ถือว่าถูกใจมากเหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้ไม่ต้องใช่ไม้กวาดให้ฝุ่นฟุ้งแล้ว ชอบค่ะ”
8. Deerma DX115C/DX118C Vacuum Cleaner

ราคา: 679 บาท
จุดเด่น:
- เครื่องดูดฝุ่นในบ้านราคาประหยัด แรงดูด 15kPa
- น้ำหนักเบาเพียง 2 กิโลกรัม สะดวกในการถือใช้งาน
- เหมาะสำหรับการทำความสะอาดประจำวันในบ้านหรือห้องพัก
- มีระบบกรอง HEPA ช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก
- ดีไซน์กะทัดรัด ไม่กินพื้นที่จัดเก็บ
- ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นราคาประหยัด
ข้อมูลจำเพาะ:
- ผลิตในประเทศจีน
- รับประกัน 12 เดือน
- น้ำหนัก: 2 กิโลกรัม
- เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น คอนโด อพาร์ทเมนท์
9. Deerma DX700/DX700S เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ 2 in 1

ราคา: 960 บาท
จุดเด่น:
- เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ 2 in 1 พลังสูงใช้งานง่าย
- ขนาดกะทัดรัด ช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโด
- พลังดูดไซโคลน 600W เทียบเท่าพลังมอเตอร์สูงถึง 4,000W
- แรงดูดสูงถึง 15,000 Pa ทำความสะอาดได้ทั่วถึง
- ใช้งานง่าย ทำความสะอาดได้ทั้งในบ้านและรถยนต์
- มีแผ่นกรองอากาศ 3 ชั้น กรองอนุภาคไรฝุ่นที่เล็กถึง 0.3 ไมครอนได้กว่า 99.97%
- ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำความสะอาดได้หลากหลาย ตั้งแต่เพดานจรดพื้น
- สายไฟยาวถึง 4 เมตร พร้อมที่ม้วนเก็บ ทำให้ทำความสะอาดได้ทั่วถึง
- น้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัม
ข้อมูลจำเพาะ:
- รุ่น: DEM-DX700
- วัสดุแปรงชั้น: ABS
- กำลังไฟ: 600W
- แรงดันใช้งาน: 220V
- ความถี่ในการทำงาน: 50Hz
- ความจุกล่องเก็บฝุ่น: 1 ลิตร
- การดูด: 15 kPa
- เสียงรบกวน: 75dB และน้อยกว่า
- สายไฟ: 4 เมตร
- ขนาด: 320 x 320 x 90 มม.
ความคิดเห็นจากผู้ใช้: “ออกแบบดี จับถนัดมือ น้ำหนักไม่หนักมาก สีสวย ถ้ากวาดๆ ฝุ่นมารวมกัน แล้วดูด แรงดูดยังไม่แรงเท่าไหร่ ต้องช่วยๆ เครื่องนิด คุณภาพตามราคา แต่ถือว่าโอเค พอใจค่ะ ถ้ามีหัวเปลี่ยน เพิ่มอีกหน่อยจะดีเลย แพ็คมาดี ถือว่าคุ้มอยู่ค่ะ กับราคานี้ ขนส่งไว แต่พึ่งมีเวลา ใช้งานจริง เสียงไม่ดัง ไม่ทำให้รำคาญ ถือว่าผ่าน”
10. Alectric เครื่องดูดฝุ่นมือถือ แรงดูด 16000Pa

ราคา: 598 บาท
จุดเด่น:
- เครื่องดูดฝุ่นมือถือราคาประหยัด แรงดูดสูงถึง 16,000 Pa
- มาพร้อมหัวดูดถึง 11 ชนิด ตอบโจทย์การทำความสะอาดหลากหลายพื้นที่
- น้ำหนักเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม พกพาสะดวก
- กรองฝุ่นละเอียดด้วยตัวกรอง HEPA
- ไส้กรองสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย นำกลับมาใช้ใหม่ได้
- สายไฟยาว 4.5 เมตร ใช้งานได้สะดวกในพื้นที่กว้าง
- รับประกันนานถึง 3 ปี
ข้อมูลจำเพาะ:
- แบรนด์: Alectric
- รุ่น: Dust VC-A
- กำลังไฟ: 500W
- แรงดันไฟ: 220V
- ความถี่: 50Hz
- ความจุ: 0.8 ลิตร
- แรงดูด: 16,000 Pa
- รอบหมุน: 40,000 ต่อนาที
- ระบบชั้นกรอง: 5 ชั้น
- ระดับเสียง: 65 dB
- สายยาว: 4.5 เมตร
- น้ำหนัก: 1.80 กิโลกรัม
- ขนาดสินค้า: 22 x 120 ซม.
เปรียบเทียบเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ 10 รุ่นยอดนิยม
รุ่น | ราคา (บาท) | พลังดูด | เวลาใช้งาน | น้ำหนัก | ฟังก์ชันพิเศษ |
Dreame H14 Ultra | 22,590 | 20,000 Pa | 40 นาที | N/A | ตัดเส้นผม 100%, ล้างน้ำร้อน 100°C |
Dreame H12 Pro | 11,790-18,990 | N/A | 35 นาที | 6.7 กก. | ดูดฝุ่นและถูพื้น 6-in-1 |
Dreame H12 Dual | 18,090 | N/A | N/A | N/A | อเนกประสงค์ 4-in-1, เป่าแห้ง 30 นาที |
Dreame V10S | 7,190 | 20,000 Pa | 60 นาที | 1.64 กก. | มอเตอร์ 120,000 rpm |
Dyson V12s | 36,900 | 140 AW | 30-60 นาที | 2.20 กก. | ดูดฝุ่นและถูพื้น, หน้าจอ LCD |
Dyson V12 Origin | 21,700 | 140 AW | 30-60 นาที | 2.20 กก. | มอเตอร์ 125,000 rpm, แท่นวาง |
Dyson V12 (พิเศษ) | 18,900 | 140 AW | 30-60 นาที | 2.20 กก. | แถมกระเป๋าเก็บอุปกรณ์ |
Deerma DX115C | 679 | 15,000 Pa | N/A | 2.0 กก. | ราคาประหยัด |
Deerma DX700 | 960 | 15,000 Pa | N/A | 2.2 กก. | 2-in-1, ราคาประหยัด |
Alectric Dust VC-A | 598 | 16,000 Pa | N/A | 1.8 กก. | มีหัวดูด 11 หัว, รับประกัน 3 ปี |
คำแนะนำในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ
หลังจากที่ได้รีวิวเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ 10 รุ่นยอดนิยมแล้ว ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำหรับการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นให้เหมาะกับความต้องการของคุณ:
เลือกตามงบประมาณ
- งบประมาณต่ำ (น้อยกว่า 1,000 บาท): Deerma DX115C, Deerma DX700, Alectric Dust VC-A เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานได้จริง
- งบประมาณปานกลาง (1,000-10,000 บาท): Dreame V10S เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในช่วงราคานี้ มีประสิทธิภาพสูง แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
- งบประมาณสูง (มากกว่า 10,000 บาท): Dreame H14 Ultra, Dreame H12 Pro, Dyson V12 Origin เป็นตัวเลือกระดับพรีเมียมที่มีฟังก์ชันการทำงานครบครัน ทนทาน และมีประสิทธิภาพสูง
เลือกตามลักษณะการใช้งาน
- สำหรับบ้านทั่วไป: Dreame V10S, Dyson V12 Origin เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการดูดฝุ่นทั่วไปในบ้าน
- สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง: Dyson V12s, Dreame H14 Ultra มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนสัตว์และเส้นผมที่พันกัน
- สำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก (คอนโด/อพาร์ทเมนท์): Deerma DX115C, Deerma DX700, Alectric Dust VC-A กะทัดรัด ใช้งานง่าย และจัดเก็บไม่กินพื้นที่
- สำหรับทำความสะอาดทั้งแบบเปียกและแห้ง: Dreame H12 Pro, Dreame H14 Ultra, Dreame H12 Dual, Dyson V12s สามารถดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในเครื่องเดียว
เลือกตามความสะดวกในการใช้งาน
- แบบไร้สาย: Dreame V10S, Dyson V12 Origin, Dyson V12s สะดวกในการเคลื่อนย้าย ไม่มีสายพันกัน
- แบบมีสาย: Deerma DX700, Alectric Dust VC-A ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมด ใช้งานได้ต่อเนื่อง
สรุป
เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่มีประโยชน์และตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นราคาประหยัดอย่าง Deerma และ Alectric หรือรุ่นระดับพรีเมียมอย่าง Dreame และ Dyson ต่างก็มีจุดเด่นและความเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป
การเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะสมควรพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งงบประมาณ ลักษณะพื้นที่ใช้งาน ประเภทของพื้นผิว รวมถึงความต้องการพิเศษอื่นๆ เช่น การดูดขนสัตว์ หรือการถูพื้น
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของคุณได้ง่ายขึ้น โดยสรุปแล้ว หากต้องการความคุ้มค่าที่สุด Dreame V10S เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่หากไม่จำกัดงบประมาณและต้องการประสิทธิภาพสูงสุด Dreame H14 Ultra และ Dyson V12s เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด