
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับทุกครัวเรือน ด้วยความสามารถในการเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่ได้นานขึ้น ป้องกันการเน่าเสียของอาหาร และช่วยคงคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้ ตู้เย็น 2 ประตูเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีฟังก์ชันการใช้งานครบถ้วน มีช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็นแยกออกจากกัน ทำให้สะดวกในการจัดเก็บอาหารที่หลากหลาย
บทความนี้ เราได้รวบรวมวิธีการเลือกตู้เย็น 2 ประตู ให้เหมาะกับการใช้งานในครัวเรือน โดยเน้นที่ความประหยัดไฟและราคาที่เหมาะสม พร้อมแนะนำ 10 รุ่นตู้เย็น 2 ประตูจากยี่ห้อที่ได้รับความนิยม มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ระบบการทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพ และมีราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพ
วิธีการเลือกตู้เย็น 2 ประตู
ด้วยเทคโนโลยีของตู้เย็นที่พัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันจึงมีตู้เย็นหลากหลายแบรนด์และรุ่นให้เลือกซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากคุณกำลังมองหาตู้เย็นสักเครื่อง สามารถเลือกซื้อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์หรือความต้องการใช้งานได้ตามแนวทางต่อไปนี้
ตรวจสอบขนาดและความจุของตู้เย็น 2 ประตู
ขนาดและความจุของตู้เย็นเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรก เนื่องจากตู้เย็นแต่ละขนาดเหมาะกับครอบครัวที่มีจำนวนสมาชิกแตกต่างกัน และพื้นที่การจัดวางในบ้าน ดังนี้
- ตู้เย็นขนาดเล็ก (4-6 คิว): เหมาะสำหรับคนโสดหรือครอบครัวเล็ก 1-2 คน ที่มีพื้นที่จัดวางจำกัด
- ตู้เย็นขนาดกลาง (7-9 คิว): เหมาะสำหรับครอบครัว 2-3 คน มีพื้นที่จัดเก็บอาหารที่พอเหมาะ
- ตู้เย็นขนาดใหญ่ (10 คิวขึ้นไป): เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ 4 คนขึ้นไป ที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บอาหารจำนวนมาก
นอกจากนี้ ควรตรวจสอบขนาดของพื้นที่ที่จะวางตู้เย็นด้วย โดยวัดความกว้าง ความสูง และความลึกของพื้นที่วาง เพื่อให้มั่นใจว่าตู้เย็นที่เลือกจะพอดีกับพื้นที่ และควรเผื่อพื้นที่ด้านหลังและด้านข้างอย่างน้อย 5-10 ซม. เพื่อการระบายความร้อนที่ดี
เลือกระบบการทำความเย็นที่เหมาะกับการใช้งาน
ระบบการทำความเย็นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของตู้เย็น และประสบการณ์การใช้งาน ซึ่งตู้เย็น 2 ประตูมีระบบการทำความเย็นหลักๆ ดังนี้
- ระบบ Direct Cool: เป็นระบบทำความเย็นแบบดั้งเดิม ที่ใช้การหมุนเวียนของอากาศเย็นตามธรรมชาติ ราคาถูกกว่า แต่อาจเกิดน้ำแข็งเกาะในช่องแช่แข็งได้ง่าย และต้องละลายน้ำแข็งเองเป็นครั้งคราว
- ระบบ No Frost: เป็นระบบทำความเย็นที่มีพัดลมช่วยกระจายความเย็นให้ทั่วถึง ทำให้ไม่เกิดน้ำแข็งเกาะในช่องแช่แข็ง ไม่ต้องละลายน้ำแข็งเอง แต่มีราคาสูงกว่าและใช้ไฟมากกว่าระบบ Direct Cool
- ระบบ Multi Air Flow: เป็นระบบทำความเย็นขั้นสูงที่มีช่องกระจายลมเย็นหลายจุด ทำให้อากาศเย็นกระจายได้ทั่วถึงทุกชั้นวาง อาหารเย็นเร็วและสม่ำเสมอ แต่มีราคาสูงกว่าระบบอื่น
ตรวจสอบระบบคอมเพรสเซอร์ตู้เย็น
คอมเพรสเซอร์เป็นหัวใจสำคัญของตู้เย็น ที่ส่งผลโดยตรงต่อการประหยัดพลังงานและอายุการใช้งาน ซึ่งมีให้เลือก 2 ระบบหลัก ดังนี้
- คอมเพรสเซอร์แบบธรรมดา: มีราคาถูกกว่า แต่ใช้พลังงานมากกว่าและมีเสียงดังกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดและไม่ได้เปิดใช้งานตู้เย็นตลอดเวลา
- คอมเพรสเซอร์แบบอินเวอร์เตอร์: สามารถปรับระดับการทำงานให้เหมาะสมกับปริมาณอาหารและการใช้งาน ช่วยประหยัดพลังงาน ทำงานเงียบกว่า และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า แต่มีราคาสูงกว่า
ตู้เย็นที่มีคอมเพรสเซอร์แบบอินเวอร์เตอร์มักมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือ 5 ดาว ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาวได้มาก แม้จะมีราคาสูงกว่าในตอนแรกก็ตาม
พิจารณาฟังก์ชันและคุณสมบัติพิเศษ
ตู้เย็นยุคใหม่มีฟังก์ชันและคุณสมบัติพิเศษมากมายที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการใช้งาน ซึ่งควรพิจารณาตามความต้องการและงบประมาณที่มี ดังนี้
- ระบบกำจัดกลิ่น: ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็น และป้องกันการปนเปื้อนของกลิ่นอาหารระหว่างกัน
- ชั้นวางกระจกนิรภัย: แข็งแรง ทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก และง่ายต่อการทำความสะอาด
- ช่องแช่พิเศษ: เช่น ช่องแช่ผักและผลไม้ที่ควบคุมความชื้น ช่องแช่เนื้อสดที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าช่องอื่น
- ระบบแจ้งเตือน: เช่น เสียงเตือนเมื่อปิดประตูไม่สนิท หรือเมื่ออุณหภูมิผิดปกติ
- ระบบควบคุมอุณหภูมิดิจิทัล: ช่วยให้สามารถปรับอุณหภูมิได้ละเอียดและแม่นยำมากขึ้น
พิจารณาการรับประกันและบริการหลังการขาย
การรับประกันและบริการหลังการขายเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกซื้อตู้เย็น เนื่องจากตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานยาวนาน และอาจเกิดปัญหาในระหว่างการใช้งานได้ ควรเลือกยี่ห้อที่มีการรับประกันที่ครอบคลุมและมีศูนย์บริการที่เข้าถึงได้ง่าย โดยทั่วไป ตู้เย็นมักมีการรับประกันดังนี้
- รับประกันตัวเครื่อง: ส่วนใหญ่รับประกัน 1-2 ปี
- รับประกันคอมเพรสเซอร์: ส่วนใหญ่รับประกัน 5-10 ปี สำหรับแบบธรรมดา และอาจสูงถึง 10-20 ปีสำหรับแบบอินเวอร์เตอร์
นอกจากนี้ ควรตรวจสอบว่ามีบริการส่งและติดตั้งถึงบ้านฟรีหรือไม่ และมีบริการซ่อมถึงบ้านหรือไม่
10 ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี ประหยัดไฟ ราคาไม่แพง
1. HITACHI ตู้เย็น 2 ประตู 6.4 คิว Inverter รุ่น HRTN5198MXTH

ราคา: 6,690 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ขนาด: 6.4 คิว (181 ลิตร)
- ระบบ NO FROST ไม่ต้องละลายน้ำแข็ง
- ระบบคอมเพรสเซอร์อินเวอร์เตอร์ ประหยัดพลังงาน
- มาตรฐานอุตสาหกรรม: ได้รับ มอก. 2186-2561 / 2214-2561
ข้อดี:
- ราคาประหยัด เหมาะสำหรับครอบครัวเล็กหรือคนอยู่คนเดียว
- ประหยัดพลังงานด้วยระบบอินเวอร์เตอร์
- ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับห้องพื้นที่จำกัด
ข้อควรพิจารณา:
- ความจุค่อนข้างน้อย อาจไม่เพียงพอสำหรับครอบครัวใหญ่
- ฟังก์ชันพิเศษมีจำกัด
2. Hisense ตู้เย็น 2 ประตู 4.5 คิว รุ่น RT158D4TWN

ราคา: 5,142 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ขนาด: 4.5 คิว (124 ลิตร)
- ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับห้องเล็ก
- รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2024
ข้อดี:
- ราคาประหยัดที่สุดในรายการ
- ขนาดเล็ก ประหยัดพื้นที่
- เหมาะสำหรับครัวเล็กหรือคนอยู่คนเดียว
ข้อควรพิจารณา:
- ความจุน้อย เหมาะสำหรับการใช้งานเบื้องต้นเท่านั้น
- อาจไม่มีฟังก์ชันพิเศษมากนัก
3. SAMSUNG ตู้เย็น 2 ประตู 8.3 คิว รุ่น RT22FGRADSA/ST

พร้อม Digital Inverter Technology
ราคา: 8,490 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ขนาด: 8.3 คิว (236 ลิตร)
- Digital Inverter Compressor ประหยัดพลังงาน ทำงานเงียบ
- ระบบ Multi Flow กระจายความเย็นทั่วถึงทุกชั้น
- ชั้น MoiseFresh Zone ช่วยเก็บผักให้สดนานขึ้น
- Deodorizing Filter ระบบกรองกลิ่น
- ชั้นวาง Easy Slide เลื่อนเข้า-ออกได้
ข้อดี:
- มีฟังก์ชันหลากหลายในราคาที่เหมาะสม
- ระบบอินเวอร์เตอร์ประหยัดไฟ รับประกันคอมเพรสเซอร์นานถึง 10 ปี
- ได้รับการทดสอบจากสถาบัน VDE ว่าคอมเพรสเซอร์มีความทนทาน ใช้งานได้นานกว่า 21 ปี
ข้อควรพิจารณา:
- ราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับขนาดที่ใกล้เคียงกันจากบางยี่ห้อ
4. TOSHIBA ตู้เย็น 2 ประตู 8.2 คิว รุ่น GR-RT303WE-PMTH

ราคา: 8,766 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ขนาด: 8.2 คิว
- ระบบอินเวอร์เตอร์ ประหยัดพลังงาน ทำงานเงียบ
- ชุดทำน้ำแข็งแบบบิด 2 แถว ทำน้ำแข็งได้สูงสุดครั้งละ 28 ก้อน
- ช่องเก็บขวดใหญ่และเครื่องดื่ม จุขวด 1.5 ลิตรได้ถึง 6 ขวด
- หลอดไฟ LED ให้ความสว่างมากขึ้น ประหยัดพลังงาน
- ระบบกำจัดกลิ่น PURE BIO ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย
ข้อดี:
- มีระบบกำจัดกลิ่นที่มีประสิทธิภาพ
- ชั้นวางกระจกนิรภัย แข็งแรง ปรับระดับได้
- มีช่องแช่พิเศษสำหรับเนื้อสัตว์
ข้อควรพิจารณา:
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับขนาดและคุณสมบัติ
5. SAMSUNG ตู้เย็น 2 ประตู 13.9 คิว รุ่น RT38CG6020S9ST พร้อม Optimal Fresh+

ราคา: 10,490 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ขนาด: 13.9 คิว (393 ลิตร)
- เทคโนโลยี SpaceMax™ ขยายพื้นที่ภายในได้กว้างขึ้น
- ระบบ All-Around Cooling กระจายความเย็นทั่วถึง
- Digital Inverter Compressor ประหยัดพลังงาน
- รับประกันคอมเพรสเซอร์ยาวนานถึง 20 ปี
ข้อดี:
- ความจุมาก เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่
- ประหยัดพลังงานด้วยระบบอินเวอร์เตอร์
- การรับประกันคอมเพรสเซอร์ยาวนานที่สุดในรายการ
- มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย
ข้อควรพิจารณา:
- ขนาดใหญ่ ต้องการพื้นที่วางมาก
- ราคาค่อนข้างสูง แต่คุ้มค่าสำหรับความจุที่ได้
6. Hisense ตู้เย็น 2 ประตู 15 คิว รุ่น ERT418X ประตูกระจก

ราคา: 9,590 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ขนาด: 15 คิว (424 ลิตร)
- ประตูกระจก ดีไซน์สวยงาม
- ความจุสูง เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่
ข้อดี:
- ความจุมากในราคาที่เหมาะสม คุ้มค่า
- มีดีไซน์สวยงามด้วยประตูกระจก
- เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีงบประมาณจำกัด
ข้อควรพิจารณา:
- อาจมีฟังก์ชันพิเศษน้อยกว่าแบรนด์ชั้นนำ
- ข้อมูลรายละเอียดมีจำกัด
7. Toshiba ตู้เย็น 2 ประตู 8.2 คิว รุ่น GR-RT303WE-DMTH(SS)

ราคา: 8,870 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ขนาด: 8.2 คิว
- ช่องปล่อยความเย็นหลากหลาย ทำให้ความเย็นไหลเวียนได้ทั่วถึง
- ชั้นวางกระจก แข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก
- ที่จับกว้างขึ้น สะดวกในการเปิดใช้งาน
- ระบบกำจัดกลิ่น Pure BIO
- รับประกันสินค้า 2 ปี รับประกันคอมเพรสเซอร์ 10 ปี
ข้อดี:
- ระบบทำความเย็นมีประสิทธิภาพ
- การรับประกันที่ครอบคลุม
- มีระบบกำจัดกลิ่นที่มีประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา:
- เป็นตู้เย็นระบบ Non-Inverter อาจใช้พลังงานมากกว่าแบบอินเวอร์เตอร์
8. Hitachi ตู้เย็น 2 ประตู 9.2 คิว รุ่น HRTN5275MPSVTH

ราคา: 8,709 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ขนาด: 9.2 คิว (260 ลิตร)
- ระบบ Surround Air Cooling กระจายลมเย็นโอบล้อมรอบทิศทาง
- แผ่นกรองขจัดกลิ่น Triple Power Filter
- คอมเพรสเซอร์อินเวอร์เตอร์ประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน
- ชั้นวางกระจกแก้วนิรภัย รองรับน้ำหนักได้ถึง 100 กก.
ข้อดี:
- ระบบทำความเย็นมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาความสดของอาหาร
- ระบบกรองกลิ่นที่มีประสิทธิภาพสูง ขจัดกลิ่นและแบคทีเรียได้ถึง 99%
- ประหยัดพลังงานด้วยระบบอินเวอร์เตอร์
ข้อควรพิจารณา:
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับขนาด
9. Electrolux ตู้เย็น 2 ประตู 15.2 คิว รุ่น ETM4302C-B

ราคา: 14,190 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ขนาด: 15.2 คิว (431 ลิตร)
- คอมเพรสเซอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ ประหยัดพลังงาน
- เทคโนโลยี AutoSense ใช้ AI ช่วยปรับการทำงานในเวลากลางคืน ประหยัดพลังงาน 10%
- ช่อง GreenZone รักษาความสดของผักและผลไม้ รักษาวิตามินซีได้ถึง 90% เมื่อผ่านไป 7 วัน
- ช่อง ExtraChil สำหรับเก็บเนื้อสัตว์
- ระบบ Cooling 360 กระจายความเย็นทั่วทุกชั้น
- ขจัดกลิ่นด้วยตัวกรองคาร์บอน
- ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 + 5 ดาว
ข้อดี:
- ความจุสูงมาก เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่
- มีฟังก์ชันพิเศษมากมาย โดยเฉพาะระบบ AI ที่ช่วยประหยัดพลังงาน
- ช่องเก็บอาหารที่ออกแบบมาเฉพาะทาง ช่วยรักษาคุณค่าและความสดของอาหาร
- ประหยัดพลังงานสูงสุด ด้วยฉลากเบอร์ 5 + 5 ดาว
ข้อควรพิจารณา:
- ราคาค่อนข้างสูง
- ขนาดใหญ่ ต้องการพื้นที่วางมาก
10. Beko ตู้เย็น 2 ประตู 13.3 คิว รุ่น RDNT401I50VS

ราคา: 13,122 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ขนาด: 13.3 คิว (375 ลิตร)
- เทคโนโลยี HarvestFresh จำลองการสังเคราะห์แสงธรรมชาติด้วยพลังแสง 3 สี
- ระบบ Neofrost™ ทำความเย็นแยกส่วนอัจฉริยะ ลดปัญหากลิ่นปะปน
- ProSmart™ Inverter Compressor ประหยัดพลังงาน
- Digital Temp Control ควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิทัล
- AirFreshFilter ตัวกรองกลิ่น
- ประหยัดไฟเบอร์ 5 (ค่าไฟ 1,307 บาท/ปี)
- รับประกันคอมเพรสเซอร์ 12 ปี และรับประกันตัวเครื่อง 2 ปี
- มีบริการถึงบ้านฟรี 2 ปี
ข้อดี:
- เทคโนโลยีล้ำสมัยจากยุโรป ช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการในอาหาร
- ระบบทำความเย็นแยกส่วน ช่วยลดการปะปนของกลิ่น
- การรับประกันที่ครอบคลุมและยาวนาน
- มีบริการหลังการขายที่ดี
ข้อควรพิจารณา:
- ราคาค่อนข้างสูง แต่เหมาะสมกับเทคโนโลยีที่ได้รับ
- เป็นแบรนด์ที่อาจไม่คุ้นเคยสำหรับผู้บริโภคบางกลุ่ม
เปรียบเทียบคุณสมบัติตู้เย็น 2 ประตู
ยี่ห้อ/รุ่น | ขนาด (คิว) | ราคา (บาท) | ระบบคอมเพรสเซอร์ | การรับประกัน | คุณสมบัติเด่น |
HITACHI HRTN5198MXTH | 6.4 | 6,690 | Inverter | 1 ปี | ระบบ NO FROST, ประหยัดพลังงาน |
Hisense RT158D4TWN | 4.5 | 5,142 | Regular | ไม่ระบุ | ขนาดกะทัดรัด, ราคาประหยัด |
SAMSUNG RT22FGRADSA/ST | 8.3 | 8,490 | Digital Inverter | 10 ปี (คอมเพรสเซอร์) | Multi Flow, ระบบกรองกลิ่น, ชั้น Easy Slide |
TOSHIBA GR-RT303WE-PMTH(52) | 8.2 | 8,766 | Inverter | ไม่ระบุ | ระบบกำจัดกลิ่น PURE BIO, ชุดทำน้ำแข็ง 28 ก้อน |
SAMSUNG RT38CG6020S9ST | 13.9 | 10,490 | Digital Inverter | 20 ปี (คอมเพรสเซอร์) | SpaceMax™, All-Around Cooling |
Hisense ERT418X | 15 | 9,590 | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | ประตูกระจก, ความจุสูง |
Toshiba GR-RT303WE-DMTH(SS) | 8.2 | 8,870 | Non-Inverter | 2 ปี (เครื่อง), 10 ปี (คอมเพรสเซอร์) | ระบบกำจัดกลิ่น Pure BIO |
Hitachi HRTN5275MPSVTH | 9.2 | 8,709 | Inverter | ไม่ระบุ | Surround Air Cooling, Triple Power Filter |
Electrolux ETM4302C-B | 15.2 | 14,190 | Inverter | ไม่ระบุ | AutoSense AI, GreenZone, Cooling 360 |
Beko RDNT401I50VS | 13.3 | 13,122 | Inverter | 2 ปี (เครื่อง), 12 ปี (คอมเพรสเซอร์) | HarvestFresh, Neofrost™, Digital Temp Control |
ข้อแนะนำในการเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู
ตู้เย็นสำหรับครอบครัวเล็กหรือคนอยู่คนเดียว (งบประมาณน้อย)
- Hisense RT158D4TWN – ราคาประหยัดที่สุด (5,142 บาท) ขนาดกะทัดรัด 4.5 คิว เหมาะสำหรับห้องเล็กหรือคนอยู่คนเดียว
- HITACHI HRTN5198MXTH – ราคาประหยัด (6,690 บาท) มีระบบอินเวอร์เตอร์ช่วยประหยัดพลังงาน ขนาด 6.4 คิว เหมาะสำหรับครอบครัว 1-2 คน
ตู้เย็นสำหรับครอบครัวขนาดกลาง (งบประมาณปานกลาง)
- SAMSUNG RT22FGRADSA/ST – ขนาด 8.3 คิว ราคา 8,490 บาท มาพร้อมฟังก์ชันที่หลากหลาย และรับประกันคอมเพรสเซอร์นานถึง 10 ปี
- Hitachi HRTN5275MPSVTH – ขนาด 9.2 คิว ราคา 8,709 บาท มีระบบกรองกลิ่นประสิทธิภาพสูงและระบบทำความเย็นที่ดี
ตู้เย็นสำหรับครอบครัวใหญ่ (งบประมาณสูง)
- Hisense ERT418X – ขนาดใหญ่ 15 คิว ในราคาที่เหมาะสม 9,590 บาท เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีงบประมาณจำกัด
- SAMSUNG RT38CG6020S9ST – ขนาด 13.9 คิว ราคา 10,490 บาท มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและรับประกันคอมเพรสเซอร์นานถึง 20 ปี
- Beko RDNT401I50VS – ขนาด 13.3 คิว ราคา 13,122 บาท มีเทคโนโลยีล้ำสมัยจากยุโรป ช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการในอาหาร
ตู้เย็นที่มีฟังก์ชันพิเศษ (งบประมาณสูง)
- Electrolux ETM4302C-B – ขนาด 15.2 คิว ราคา 14,190 บาท มาพร้อมเทคโนโลยี AI และช่องเก็บอาหารที่ออกแบบมาเฉพาะทาง
- Beko RDNT401I50VS – มีเทคโนโลยี HarvestFresh และ Neofrost™ ที่ช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการและลดการปะปนของกลิ่น
ข้อควรรู้ในการใช้งานตู้เย็น 2 ประตู
วิธีดูแลรักษาตู้เย็นให้มีอายุการใช้งานยาวนาน
- ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
- ทำความสะอาดภายในตู้เย็นอย่างน้อยเดือนละครั้ง ด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชูหรือน้ำยาทำความสะอาดอ่อนๆ
- ทำความสะอาดแผงคอนเดนเซอร์ด้านหลังตู้เย็นทุก 3-6 เดือน เพื่อให้ระบายความร้อนได้ดี
- ไม่วางตู้เย็นใกล้แหล่งความร้อน
- หลีกเลี่ยงการวางตู้เย็นใกล้เตา เครื่องทำน้ำร้อน หรือกลางแดด
- เว้นระยะห่างจากผนังหรือเฟอร์นิเจอร์อย่างน้อย 5-10 ซม. เพื่อการระบายความร้อนที่ดี
- ไม่เปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้นาน
- การเปิดประตูตู้เย็นบ่อยหรือนานเกินไปทำให้สูญเสียความเย็นและสิ้นเปลืองพลังงาน
- คิดและวางแผนว่าจะหยิบอะไรก่อนเปิดตู้เย็น
- ไม่ใส่อาหารร้อนในตู้เย็น
- รอให้อาหารเย็นลงก่อนใส่ตู้เย็น เพื่อลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์
- อาหารร้อนทำให้อุณหภูมิในตู้เย็นสูงขึ้น และอาจส่งผลต่ออาหารอื่นที่แช่อยู่
- ไม่แช่อาหารแน่นเกินไป
- การแช่อาหารมากเกินไปทำให้การหมุนเวียนของอากาศเย็นไม่ดี
- ควรจัดเรียงอาหารให้เป็นระเบียบและมีช่องว่างพอสมควร
สรุป
การเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตูที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานยาวนานและใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง การเลือกตู้เย็นที่มีประสิทธิภาพในการทำความเย็น ประหยัดพลังงาน และมีฟังก์ชันที่ตรงกับความต้องการจะช่วยให้คุณได้ใช้งานอย่างคุ้มค่าในระยะยาว
สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด ตู้เย็นขนาดเล็กถึงกลางจากแบรนด์อย่าง Hisense หรือ HITACHI เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ในขณะที่ผู้ที่ต้องการตู้เย็นขนาดใหญ่พร้อมฟังก์ชันทันสมัย แบรนด์อย่าง SAMSUNG, Electrolux หรือ Beko อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า ไม่ว่าคุณจะเลือกตู้เย็นยี่ห้อใด การดูแลรักษาและใช้งานอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ตู้เย็นของคุณมีประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุ้มค่ากับการลงทุน