ตู้เย็นมินิบาร์เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประโยชน์สำหรับที่พักอาศัยขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก คอนโด หอพัก หรือแม้แต่ในห้องนอน ด้วยขนาดที่กะทัดรัด ตู้เย็นมินิบาร์จึงเหมาะกับการใช้งานพื้นฐานที่ไม่ต้องการพื้นที่จัดเก็บมาก เช่น การแช่เครื่องดื่ม อาหารว่าง หรือแม้กระทั่งเครื่องสำอาง ในบทความนี้ เราได้รวบรวมตู้เย็นมินิบาร์จากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อ เพื่อให้คุณเลือกได้ถูกใจและเหมาะกับการใช้งาน

วิธีการเลือกตู้เย็นมินิบาร์ให้เหมาะกับการใช้งาน

ตู้เย็นมินิบาร์หรือตู้เย็นขนาดเล็กมีให้เลือกหลากหลายรุ่นและยี่ห้อในท้องตลาด ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป การเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์ให้เหมาะกับความต้องการ มีปัจจัยที่ควรพิจารณาดังนี้

ขนาดความจุและพื้นที่ในการติดตั้ง

ขนาดความจุเป็นปัจจัยสำคัญอันดับแรกในการเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์ โดยทั่วไปตู้เย็นมินิบาร์จะมีขนาดตั้งแต่ 1.0-3.2 คิว หรือประมาณ 30-90 ลิตร ซึ่งคุณควรพิจารณาเลือกให้เหมาะสมกับปริมาณของที่ต้องการจัดเก็บและพื้นที่ที่มีในการติดตั้ง

• ขนาดเล็ก (1.0-1.8 คิว หรือ 30-50 ลิตร): เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัว เช่น แช่เครื่องดื่ม อาหารว่าง หรือเครื่องสำอาง พื้นที่จัดเก็บอาจมีจำกัด แต่ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย
• ขนาดกลาง (2.0-2.5 คิว หรือ 50-70 ลิตร): เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอน หรือห้องทำงาน มีพื้นที่จัดเก็บมากขึ้น สามารถเก็บของได้หลากหลายมากขึ้น
• ขนาดใหญ่ (3.0-3.2 คิว หรือ 80-90 ลิตร): เหมาะสำหรับใช้ในห้องพักหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด แต่ต้องการพื้นที่จัดเก็บอาหารหรือเครื่องดื่มในปริมาณที่มากขึ้น

นอกจากนี้ คุณยังควรวัดพื้นที่ที่จะติดตั้งตู้เย็นให้ชัดเจน ทั้งความกว้าง ความลึก และความสูง เพื่อให้แน่ใจว่าตู้เย็นที่เลือกสามารถวางได้พอดีกับพื้นที่ที่กำหนด โดยควรเผื่อพื้นที่โดยรอบประมาณ 5-10 ซม. เพื่อการระบายความร้อนที่ดี

ระบบการทำความเย็นและฟังก์ชันการใช้งาน

ตู้เย็นมินิบาร์มีระบบการทำความเย็นหลักๆ 2 แบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน:

• ระบบคอมเพรสเซอร์ (Compressor): เป็นระบบทำความเย็นเช่นเดียวกับตู้เย็นทั่วไป ให้ความเย็นที่สม่ำเสมอและสามารถทำความเย็นได้ต่ำกว่าระบบอื่น เหมาะสำหรับการแช่อาหารและเครื่องดื่มทั่วไป แต่อาจมีเสียงดังกว่าและใช้พลังงานมากกว่า
• ระบบเทอร์โมอิเล็กทริก (Thermoelectric): ใช้พลังงานไฟฟ้าในการสร้างความเย็น ไม่มีสารทำความเย็น ทำงานเงียบกว่า ประหยัดพลังงานมากกว่า แต่อาจไม่เย็นจัดเท่าระบบคอมเพรสเซอร์ เหมาะสำหรับการแช่เครื่องดื่มหรือผลไม้ที่ไม่ต้องการความเย็นมาก

นอกจากนี้ คุณควรพิจารณาฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ ด้วย เช่น:

• ช่องแช่แข็ง: บางรุ่นมีช่องแช่แข็งขนาดเล็กสำหรับทำน้ำแข็งหรือแช่อาหารแช่แข็ง
• ชั้นวางปรับระดับได้: ช่วยให้จัดเก็บอาหารและเครื่องดื่มได้หลากหลายขนาดมากขึ้น
• ช่องเก็บของที่ประตู: เพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บเครื่องดื่มขวดเล็กหรือซอส
• การปรับความเย็น: บางรุ่นสามารถปรับระดับความเย็นได้ ช่วยให้เหมาะสมกับการใช้งานที่หลากหลาย
• ไฟส่องสว่างภายใน: ช่วยให้มองเห็นอาหารและเครื่องดื่มได้ชัดเจนในที่มืด

การประหยัดพลังงานและระดับเสียง

ในการเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์ คุณควรพิจารณาการใช้พลังงานและระดับเสียงในการทำงานด้วย:

• ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5: ตู้เย็นที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะใช้พลังงานน้อยกว่า ช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาว
• กำลังไฟฟ้า (วัตต์): ตู้เย็นที่ใช้กำลังไฟฟ้าน้อยกว่าจะประหยัดพลังงานมากกว่า โดยทั่วไปตู้เย็นมินิบาร์จะใช้กำลังไฟฟ้าประมาณ 40-70 วัตต์
• ระดับเสียง (เดซิเบล): หากคุณต้องการติดตั้งตู้เย็นในห้องนอนหรือพื้นที่ที่ต้องการความเงียบ ควรเลือกรุ่นที่มีระดับเสียงต่ำ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 30-40 เดซิเบล

สารทำความเย็นและการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบัน ตู้เย็นมินิบาร์ส่วนใหญ่ใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น R600a ซึ่งไม่ทำลายชั้นโอโซนและไม่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ดังนั้น คุณควรเลือกตู้เย็นที่ใช้สารทำความเย็นชนิดนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อม

การรับประกันและบริการหลังการขาย

การรับประกันและบริการหลังการขายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์:

• ระยะเวลารับประกัน: ตู้เย็นมินิบาร์ทั่วไปจะมีการรับประกันประมาณ 1-3 ปี สำหรับตัวเครื่อง และ 5-10 ปี สำหรับคอมเพรสเซอร์
• ศูนย์บริการ: ควรเลือกแบรนด์ที่มีศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อความสะดวกในกรณีที่เกิดปัญหา
• อะไหล่: แบรนด์ที่มีชื่อเสียงมักมีอะไหล่พร้อมให้บริการในระยะเวลาที่ยาวนาน

10 ตู้เย็นมินิบาร์ ยี่ห้อไหนดี เย็นจัด ประหยัดไฟ

หลังจากที่เราได้ทราบถึงปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์แล้ว ต่อไปจะเป็นการแนะนำ 10 ตู้เย็นมินิบาร์ยอดนิยมที่มีคุณภาพดี ประหยัดไฟ และน่าใช้งาน

No.1 HAFELE ตู้เย็นมินิบาร์

ราคาอ้างอิง: 9,350 บาท (พร้อมที่เปิดขวดไวน์)
ราคา: สูง

จุดเด่น: ตู้เย็นมินิบาร์ดีไซน์สวยแบบสไตล์ย้อนยุค กลิ่นอายความคลาสสิกที่ผสมผสานเข้ากับฟังก์ชันที่ทันสมัย

• ปริมาตรความจุ 45 ลิตร (1.5 คิว) เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัว
• สารทำความเย็น R600a เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
• ระบบกระจายความเย็นด้วยปุ่มบิด ระดับ 0-6 ปรับได้ตามต้องการ
• ระบบกระจายความเย็นแบบไดเร็ค คูล ทำให้ความเย็นกระจายทั่วถึงทั้งตู้
• ระบบละลายน้ำแข็งแบบกึ่งอัตโนมัติ พร้อมถาดรองน้ำทิ้ง
• ขาตั้งสามารถปรับได้ ช่วยให้วางได้มั่นคงแม้พื้นไม่เรียบ
• ประหยัดไฟด้วยฉลากประสิทธิภาพการใช้พลังงานเบอร์ 5
• ระดับเสียงขณะทำงานเพียง 40 เดซิเบล ไม่รบกวนการพักผ่อน
• มีให้เลือกในสีครีมและสีแดง เข้ากับการตกแต่งได้หลากหลายสไตล์
• โปรโมชันพิเศษ แถมที่เปิดขวดไวน์แบบอัตโนมัติ

เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบตู้เย็นดีไซน์สวยงาม วินเทจ ต้องการใช้ในห้องนอน คอนโด หรือห้องรับแขกที่ต้องการความสวยงามและมีสไตล์

No.2 SHARP ตู้เย็นมินิบาร์ รุ่น SJ-MB50-W, SJ-MB90-W

ราคาอ้างอิง: 4,490 – 5,190 บาท
ราคา: ปานกลาง

จุดเด่น: ตู้เย็นมินิบาร์คุณภาพดีจากแบรนด์ชั้นนำ มีให้เลือก 2 ขนาดตามความเหมาะสมของการใช้งาน

• มีให้เลือก 2 ขนาด: 1.7 คิว และ 3.2 คิว
• ดีไซน์สวยงาม ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับห้องทุกสไตล์
• บานประตูสวยงาม และสะดวกด้วยมือจับแบบฝัง
• ระบบละลายน้ำแข็งแบบธรรมดา พร้อมถาดรองน้ำทิ้ง
• ชั้นวางของออกแบบให้สามารถถอดออกได้ ปรับเปลี่ยนพื้นที่จัดเก็บได้ตามต้องการ
• ใช้น้ำยาทำความเย็น R600a ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (NON CFC)
• ได้รับฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 จาก กฟผ.
• รับประกันคอมเพรสเซอร์นานถึง 5 ปี สร้างความมั่นใจในการใช้งานระยะยาว
• รุ่น SJ-MB90-W มีหลอดไฟส่องสว่างภายในตู้ ช่วยให้มองเห็นอาหารได้ชัดเจน

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตู้เย็นมินิบาร์คุณภาพดี จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีบริการหลังการขายที่ดี และต้องการเลือกขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน

No.3 Haier ตู้เย็นมินิบาร์ รุ่น HR-SD95

ราคาอ้างอิง: 5,090 บาท
ราคา: ปานกลาง

จุดเด่น: ตู้เย็นมินิบาร์ขนาดใหญ่ จุของได้เยอะ เหมาะสำหรับห้องพักหรือคอนโดที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บมาก

• ปริมาตรความจุ 92 ลิตร (3.2 คิว) ให้พื้นที่จัดเก็บเยอะกว่าตู้เย็นมินิบาร์ทั่วไป
• ตู้เย็น 1 ประตู ดีไซน์เรียบหรู สีดำดูเท่ ทันสมัย
• ขนาดกะทัดรัด 452 x 479 x 850 มม. ใช้พื้นที่ไม่มากแม้จะมีความจุสูง
• น้ำหนักเบาเพียง 18.6 กก. เคลื่อนย้ายได้สะดวก
• เหมาะสำหรับการใช้งานในคอนโด อพาร์ทเม้นท์ หรือห้องพักที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บมาก

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตู้เย็นขนาดกลาง-ใหญ่ มีพื้นที่จัดเก็บมาก แต่ยังคงประหยัดพื้นที่กว่าตู้เย็นขนาดปกติ ดีไซน์ทันสมัย สีดำหรูดูดี

No.4 SHARP ตู้เย็นมินิบาร์ รุ่น SJ-MB50-B, SJ-MB90-B

ราคาอ้างอิง: 4,359 บาท
ราคา: ปานกลาง

จุดเด่น: ตู้เย็นมินิบาร์โทนสีดำสุดเท่ จากแบรนด์ชั้นนำ ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น คุณภาพเชื่อถือได้

• มีให้เลือก 2 ขนาด: 1.7 คิว และ 3.2 คิว ตามความเหมาะสมของการใช้งาน
• ดีไซน์สวยงาม สีดำดูหรูหรา ทันสมัย เหมาะกับการตกแต่งได้หลากหลายสไตล์
• เหมาะกับห้องทุกสไตล์ ทั้งห้องส่วนตัว ห้องนอน ห้องพักโรงแรม หรือคอนโดมิเนียม
• บานประตูสวยงาม และสะดวกด้วยมือจับแบบฝัง
• สามารถติดตั้งสลับด้านสำหรับเปิดทางซ้ายหรือขวาได้ ปรับให้เข้ากับพื้นที่ติดตั้ง
• ระบบละลายน้ำแข็งแบบธรรมดา พร้อมถาดรองน้ำทิ้ง
• ชั้นวางของออกแบบให้สามารถถอดออกได้ ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ
• รุ่น SJ-MB90-B มีหลอดไฟส่องสว่างภายในตู้ ช่วยให้มองเห็นอาหารได้ชัดเจน
• รับประกันคอมเพรสเซอร์นานถึง 5 ปี

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตู้เย็นมินิบาร์สีดำ ดูทันสมัย เท่ จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ มีคุณภาพดี และมีบริการหลังการขายที่ดี

No.5 SONAR ตู้เย็นมินิบาร์ รุ่น RS-A50NG

ราคาอ้างอิง: 4,790 บาท
ราคา: ปานกลาง

จุดเด่น: ตู้เย็นมินิบาร์หน้ากระจกสุดหรู สามารถมองเห็นสิ่งของภายในได้โดยไม่ต้องเปิดประตู เหมาะสำหรับโชว์สินค้าหรือใช้เป็นตู้แช่ไวน์

• ปริมาตรความจุ 50 ลิตร (1.8 คิว) พื้นที่จัดเก็บกำลังดี ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป
• ดีไซน์สวยด้วยประตูกระจก มองเห็นสิ่งของภายในได้โดยไม่ต้องเปิดประตู
• เหมาะสำหรับรีสอร์ท โรงแรม ห้องพัก บ้าน คอนโด ออฟฟิศ
• น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก
• ประหยัดไฟมากกว่าตู้เย็นทั่วไป กำลังไฟเพียง 47 วัตต์
• ปรับความเย็นได้ 7 ระดับ ตามความต้องการใช้งาน
• มีระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง
• วัสดุแข็งแรง กักเก็บความเย็นได้ดี
• มีคอมเพรสเซอร์ ให้ความเย็นสม่ำเสมอ
• เหมาะสำหรับแช่เครื่องดื่ม ผลไม้ หรือเครื่องสำอาง
• ผลิตในประเทศไทย การันตีคุณภาพและบริการหลังการขาย
• รับประกัน 12 เดือน

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตู้เย็นมินิบาร์ที่สามารถแสดงสินค้าหรือเครื่องดื่มภายในได้อย่างสวยงาม เช่น ใช้เป็นตู้แช่ไวน์ หรือตู้โชว์เครื่องดื่ม ในห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือพื้นที่รับแขก

No.6 TOSHIBA ตู้เย็นมินิบาร์ รุ่น GR-D906

ราคาอ้างอิง: 4,620 บาท
ราคา: ปานกลาง

จุดเด่น: ตู้เย็นมินิบาร์คุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำ มีให้เลือกหลายสี ทำงานเงียบ ประหยัดไฟ

• ปริมาตรความจุ 3.1 คิว ขนาดกำลังดี จุของได้เยอะ
• มีให้เลือกหลากหลายสี: ดำ, ขาว, ดำเข้ม, เงินสว่าง เข้ากับการตกแต่งได้หลากหลายสไตล์
• ดีไซน์สวยงาม ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับห้องทุกสไตล์
• กระจายความเย็นได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพด้วยชั้นวางแบบตะแกรง
• สวยงามและสะดวกด้วยมือจับแบบฝัง พร้อมหลอดไฟเพื่อความสว่าง
• ระบบละลายน้ำแข็งแบบธรรมดา พร้อมถาดรองน้ำทิ้ง
• ประหยัดไฟเบอร์ 5 ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
• น้ำยาทำความเย็นใหม่ R600a เย็นเร็ว ประหยัดไฟ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• ชั้นวางกระจกนิรภัย 2 ชิ้น แข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก เมื่อแตกจะไม่มีคม และปรับระดับขึ้น-ลงได้
• เสียงการทำงานเงียบ เพียง 32 เดซิเบล ไม่รบกวนการพักผ่อน
• ขอบยางประตูสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
• รับประกันตัวเครื่อง 3 ปี และรับประกันคอมเพรสเซอร์ 5 ปี
• บริการจัดส่งฟรี จากโตชิบาโดยตรง

สำหรับใคร: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตู้เย็นมินิบาร์คุณภาพสูง จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ ทำงานเงียบ ไม่รบกวนการพักผ่อน เหมาะสำหรับห้องนอน คอนโด หรือห้องพัก

No.7 TCL ตู้เย็นมินิบาร์ รุ่น RT04XFSDG

ราคาอ้างอิง: 2,499 บาท
ราคา: ประหยัด

จุดเด่น: ตู้เย็นมินิบาร์ราคาประหยัด คุณภาพดี ทำงานเงียบ รับประกันยาวนาน

• ปริมาตรความจุ 1.6 คิว ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัว
• น้ำหนักเบาเพียง 15.5 กก. สะดวกในการเคลื่อนย้าย
• ขนาด 46.00 x 49.00 x 52.80 ซม. ประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง
• ออกแบบให้ทำงานเงียบ เหมาะสำหรับออฟฟิศ ห้องนอน หรือพื้นที่ที่ต้องการความเงียบ
• ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. 2214-2561 การันตีคุณภาพและความปลอดภัย
• รับประกันนานถึง 3 ปี สร้างความมั่นใจในการใช้งาน
• บางโปรโมชั่นมีการรับประกันถึง 10 ปี (ควรตรวจสอบเงื่อนไขก่อนซื้อ)
• บริการจัดส่งฟรี ถึงบ้าน

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตู้เย็นมินิบาร์ราคาประหยัด แต่มีคุณภาพดี รับประกันยาวนาน ทำงานเงียบ เหมาะสำหรับห้องนอน หอพัก หรือออฟฟิศ

No.8 Octopus ตู้เย็นมินิบาร์

ราคาอ้างอิง: 3,529 บาท
ราคา: ประหยัด

จุดเด่น: ตู้เย็นมินิขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด ประหยัดพลังงาน

• ปริมาตรความจุ 30 ลิตร ขนาดเล็กกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่
• เสียงเบาไร้การรบกวน เหมาะสำหรับห้องพักหรือห้องนอน
• กำลังไฟเพียง 70 วัตต์ ประหยัดพลังงาน
• ให้ความเย็นในช่วง 8-12 องศา (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิโดยรอบ)
• น้ำหนักเบาเพียง 11 กิโลกรัม เคลื่อนย้ายง่าย
• ใช้แรงดันไฟฟ้า 220V-240V/50Hz ซึ่งเป็นมาตรฐานในประเทศไทย
• ตู้เย็นแบบมินิ สะดวก กินไฟน้อย
• เหมาะกับการใช้ภายในหอพัก สำนักงาน หรือห้องพักขนาดเล็ก

สำหรับใคร: เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด ต้องการตู้เย็นขนาดเล็กมากเพื่อแช่ของเฉพาะที่จำเป็น เช่น ในหอพัก ห้องพักขนาดเล็ก หรือสำนักงาน

No.9 Midea ตู้เย็นมินิบาร์ รุ่น HS-65LN

ราคาอ้างอิง: 2,400 บาท
ราคา: ประหยัด

จุดเด่น: ตู้เย็นมินิบาร์ราคาประหยัดที่สุด แต่มีฟังก์ชันครบครัน และรับประกันยาวนาน

• ปริมาตรความจุ 1.6 คิว หรือ 45 ลิตร ขนาดกำลังดีสำหรับการใช้งานส่วนตัว
• ทำความเย็นด้วยระบบ Direct Cooling ปรับความเย็นได้ 6 ระดับ
• มีช่องแช่แข็งแยก ทำความเย็น 0 องศา เทียบเท่าตู้เย็นขนาดใหญ่
• ตัวเครื่องเล็กแต่มีช่องเก็บขนาดใหญ่ จัดเก็บได้ครบครัน
• ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ เคลื่อนย้ายสะดวก
• ดีไซน์สวย ทันสมัย เข้าได้กับทุกพื้นที่ในบ้าน
• ระบบละลายน้ำแข็ง: Semi Automatic ช่วยให้ไม่ต้องคอยละลายน้ำแข็งบ่อยๆ
• ขนาด 475 x 450 x 492 มม. ประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง
• น้ำหนัก 17 กก. เคลื่อนย้ายได้สะดวก
• รับประกันสินค้า 1 ปี และคอมพรสเซอร์ 5 ปี

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตู้เย็นมินิบาร์ราคาประหยัดที่สุด แต่ยังได้คุณภาพดี มีช่องแช่แข็ง และรับประกันยาวนาน เหมาะสำหรับหอพัก คอนโด หรือห้องพักขนาดเล็ก

No.10 Worldtech ตู้เย็นมินิบาร์ รุ่น WT-MB48

ราคาอ้างอิง: 2,409 บาท
ราคา: ประหยัด

จุดเด่น: ตู้เย็นมินิบาร์ราคาประหยัด ประหยัดไฟเบอร์ 5 รับประกันยาวนาน มีให้เลือกหลายสี

• ปริมาตรความจุ 46 ลิตร (1.7 คิว) ขนาดกำลังดีสำหรับการใช้งานส่วนตัว
• ใช้กำลังไฟเพียง 50 วัตต์ ประหยัดพลังงาน
• ได้รับการรับรองมาตรฐานประหยัดไฟเบอร์ 5
• ปลอดภัยได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
• ดีไซน์ทันสมัย เข้าได้กับทุกดีไซน์ของห้องในบ้าน
• คอมเพรสเซอร์คุณภาพสูง เสียงเงียบ ไม่รบกวนการพักผ่อน
• ขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะสำหรับ ห้องนอน คอนโด หรือโรงแรม
• มีช่องแช่แข็ง แยกจากโซนทำความเย็น
• สามารถปรับอุณหภูมิความเย็นได้ 7 ระดับ ตามความต้องการใช้งาน
• ชั้นวางกระจกนิรภัย แข็งแรง ทนทาน
• ขาตั้งปรับระดับได้ ช่วยให้วางได้มั่นคงแม้พื้นไม่เรียบ
• มีคู่มือการใช้งานภาษาไทย สะดวกต่อการใช้งาน
• มีให้เลือก 3 สี: ขาว, ดำ, เงิน เข้ากับการตกแต่งได้หลากหลายสไตล์
• ขนาด 47.5 x 44 x 50 ซม. ประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง
• น้ำหนักเบาเพียง 13.59 กก. เคลื่อนย้ายได้สะดวก
• รับประกัน 3 ปี สร้างความมั่นใจในการใช้งาน

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตู้เย็นมินิบาร์ราคาประหยัด ประหยัดไฟ รับประกันยาวนาน มีช่องแช่แข็ง และมีให้เลือกหลายสี เหมาะสำหรับหอพัก คอนโด หรือห้องพักขนาดเล็ก

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติตู้เย็นมินิบาร์

รุ่น	ความจุ (คิว)	ราคา (บาท)	การรับประกัน	การประหยัดพลังงาน	ช่องแช่แข็ง	จุดเด่น
HAFELE คิวท์ ซีรีย์	1.5	9,350	N/A	เบอร์ 5	ไม่มี	ดีไซน์สไตล์ย้อนยุค สวยงาม
SHARP SJ-MB50/90-W	1.7, 3.2	4,490-5,190	5 ปี (คอมเพรสเซอร์)	เบอร์ 5	มี	แบรนด์ชั้นนำ คุณภาพดี
Haier HR-SD95	3.2	5,090	N/A	N/A	มี	ขนาดใหญ่ จุของได้เยอะ
SHARP SJ-MB50/90-B	1.7, 3.2	4,359	5 ปี (คอมเพรสเซอร์)	เบอร์ 5	มี	สีดำสวยหรู ทันสมัย
SONAR RS-A50NG	1.8	4,790	12 เดือน	ใช้ไฟ 47W	ไม่มี	ประตูกระจก มองเห็นด้านใน
TOSHIBA GR-D906	3.1	4,620	3 ปี, 5 ปี (คอมเพรสเซอร์)	เบอร์ 5	มี	เสียงเงียบ 32dB หลายสี
TCL RT04XFSDG	1.6	2,499	3 ปี	N/A	มี	ราคาประหยัด ทำงานเงียบ
Octopus CD16	1.0	3,529	N/A	ใช้ไฟ 70W	ไม่มี	ขนาดเล็กที่สุด น้ำหนักเบา
Midea HS-65LN	1.6	2,400	1 ปี, 5 ปี (คอมเพรสเซอร์)	N/A	มี	ราคาประหยัดที่สุด
Worldtech WT-MB48	1.7	2,409	3 ปี	เบอร์ 5	มี	ประหยัดไฟ รับประกันยาวนาน

วิธีการดูแลรักษาตู้เย็นมินิบาร์ให้ใช้งานได้ยาวนาน

การดูแลรักษาตู้เย็นมินิบาร์อย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและประสิทธิภาพในการทำความเย็น รวมถึงช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย ต่อไปนี้เป็นวิธีการดูแลรักษาตู้เย็นมินิบาร์ให้ใช้งานได้ยาวนาน

การติดตั้งที่เหมาะสม

• วางในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเท: ควรเว้นระยะห่างโดยรอบประมาณ 5-10 ซม. เพื่อให้ระบายความร้อนได้ดี
• หลีกเลี่ยงการวางใกล้แหล่งความร้อน: ไม่ควรวางใกล้เตาไฟ เครื่องทำความร้อน หรือบริเวณที่ถูกแสงแดดโดยตรง
• วางบนพื้นที่มั่นคงและเรียบ: ปรับขาตั้งให้ได้ระดับเพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนและเสียงดัง
• ไม่ควรวางของหนักทับบนตู้เย็น: อาจทำให้ตัวตู้เย็นเสียหายหรือระบบทำงานผิดปกติได้

การใช้งานอย่างถูกวิธี

• ปรับระดับความเย็นให้เหมาะสม: ไม่ควรปรับระดับความเย็นให้สูงเกินความจำเป็น เพราะจะสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์
• ไม่ควรเปิดประตูตู้เย็นบ่อยหรือเปิดทิ้งไว้นาน: จะทำให้ความเย็นรั่วไหลและสิ้นเปลืองพลังงาน
• ไม่ควรใส่อาหารร้อนลงในตู้เย็นโดยตรง: ควรรอให้อาหารเย็นลงก่อน เพื่อไม่ให้ตู้เย็นทำงานหนักเกินไป
• ไม่ควรบรรจุของมากเกินไป: ควรเว้นช่องว่างให้อากาศไหลเวียนได้ดีภายในตู้เย็น

การทำความสะอาดและบำรุงรักษา

• ถอดปลั๊กก่อนทำความสะอาดทุกครั้ง: เพื่อความปลอดภัยและป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
• ทำความสะอาดภายในและภายนอกด้วยน้ำยาอ่อนๆ: ใช้น้ำผสมน้ำยาล้างจานหรือเบกกิ้งโซดาเพื่อทำความสะอาด ไม่ควรใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
• ทำความสะอาดขอบยางประตู: ช่วยให้ปิดสนิทและป้องกันความเย็นรั่วไหล
• ละลายน้ำแข็งตามคำแนะนำของผู้ผลิต: หากเป็นระบบละลายน้ำแข็งแบบธรรมดาหรือกึ่งอัตโนมัติ ควรละลายน้ำแข็งเมื่อมีน้ำแข็งเกาะหนาประมาณ 1/4 นิ้ว
• ทำความสะอาดแผงระบายความร้อนด้านหลัง: ใช้แปรงหรือเครื่องดูดฝุ่นเพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรก ซึ่งจะช่วยให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น

ข้อควรระวังเมื่อไม่ใช้งานเป็นเวลานาน

• ถอดปลั๊กและทำความสะอาด: ควรทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกให้สะอาด
• เปิดประตูทิ้งไว้: เพื่อป้องกันกลิ่นอับและการเกิดเชื้อรา
• วางผ้าขนหนูหรือกระดาษซับใต้ตู้เย็น: ในกรณีที่มีน้ำไหลออกมาระหว่างละลายน้ำแข็ง

สรุป: ตู้เย็นมินิบาร์ ยี่ห้อไหนดี ตามงบประมาณและการใช้งาน

การเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งาน พื้นที่ติดตั้ง และงบประมาณที่มี จากการรีวิวตู้เย็นมินิบาร์ทั้ง 10 รุ่น สามารถสรุปแนะนำตามงบประมาณได้ดังนี้

• งบประมาณสูง (6,000+ บาท): แนะนำ HAFELE ตู้เย็นมินิบาร์แบบสไตล์ย้อนยุค คิวท์ ซีรีย์ สำหรับผู้ที่ต้องการดีไซน์สวยงาม คุณภาพสูง และเป็นจุดเด่นในการตกแต่งห้อง
• งบประมาณปานกลาง (3,000-6,000 บาท): แนะนำ SHARP SJ-MB50/90 ทั้งสีขาวและสีดำ สำหรับผู้ที่ต้องการตู้เย็นมินิบาร์คุณภาพดี จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีการรับประกันยาวนาน หรือ TOSHIBA GR-D906 สำหรับผู้ที่ต้องการตู้เย็นที่ทำงานเงียบเป็นพิเศษ
• งบประมาณน้อย (ต่ำกว่า 3,000 บาท): แนะนำ Midea HS-65LN สำหรับผู้ที่ต้องการตู้เย็นมินิบาร์ราคาประหยัดที่สุด แต่ยังมีคุณภาพดีและมีช่องแช่แข็ง หรือ Worldtech WT-MB48 สำหรับผู้ที่ต้องการตู้เย็นประหยัดไฟ รับประกันยาวนาน และมีให้เลือกหลายสี