รองเท้าวิ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่รักสุขภาพและต้องการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ต้องการความสะดวกในการวิ่งได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยการออกแบบที่สามารถรองรับการเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการบาดเจ็บ และให้ความสบายในการวิ่งระยะยาว
รองเท้าวิ่งที่ดีมีความสามารถในการรองรับแรงกระแทกอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถปรับรองรับน้ำหนักและการเคลื่อนไหวได้หลายรูปแบบตามความเหมาะสมกับสภาพเท้าของแต่ละคน มีเทคโนโลยีที่ช่วยระบายอากาศเพื่อลดความร้อนสะสม ลดการเกิดแผลพุพอง และที่สำคัญคือสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานโดยไม่สึกหรอง่าย
บทความนี้ เราได้รวบรวม วิธีการเลือกรองเท้าวิ่ง ให้เหมาะกับความต้องการของคุณ และ 5 รองเท้าวิ่งจากยี่ห้อยอดนิยม ในราคาไม่เกิน 5,000 บาท พร้อมคุณสมบัติเด่นต่างๆ ที่น่าสนใจมาแนะนำ เพื่อให้คุณเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่า

วิธีการเลือกรองเท้าวิ่ง
การเลือกรองเท้าวิ่งให้เหมาะกับความต้องการ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. พิจารณาประเภทการวิ่งและระยะทาง
ประเภทการวิ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเลือกรองเท้าวิ่งที่เหมาะสม การเลือกรองเท้าที่ตรงกับการใช้งานจะช่วยให้วิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การวิ่งระยะสั้น (5-10 กม.) เหมาะสำหรับรองเท้าที่มีน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง และตอบสนองการเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว
- การวิ่งระยะกลาง (10-21 กม.) ต้องการรองเท้าที่สมดุลระหว่างการรองรับแรงกระแทกและน้ำหนักเบา มีคุณสมบัติในการกระจายแรงกดทับได้ดี
- การวิ่งระยะยาว (21 กม.ขึ้นไป) จำเป็นต้องมีระบบรองรับแรงกระแทกที่ดีเยี่ยม วัสดุคุณภาพสูงที่ทนทาน และระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ
2. ตรวจสอบลักษณะการเดินและรูปเท้า
การเลือกรองเท้าที่เหมาะกับลักษณะการเดินและรูปเท้าจะช่วยให้การวิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ
- การเดินปกติ (Normal Pronation) เหมาะสำหรับรองเท้าวิ่งทั่วไปที่มีการรองรับแรงกระแทกสมดุล
- การเดินแบบ Over-pronation ต้องการรองเท้าที่มีระบบควบคุมการเคลื่อนไหวและซัพพอร์ทด้านใน
- การเดินแบบ Under-pronation เหมาะกับรองเท้าที่มีความยืดหยุ่นสูงและมีการรองรับแรงกระแทกที่นุ่มนวล
รูปเท้าที่แตกต่างกันต้องการการรองรับที่แตกต่างกัน เช่น เท้าแบน ต้องการรองรับส่วนโค้งเท้า หรือเท้าที่มีส่วนโค้งสูง ต้องการความยืดหยุ่นในการรองรับ
3. พิจารณาระบบรองรับแรงกระแทกและวัสดุ
เทคโนโลยีการรองรับแรงกระแทกมีผลต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการวิ่ง โดยควรพิจารณาดังนี้
- โฟม EVA หรือ Phylon ให้การรองรับแรงกระแทกที่สมดุล มีน้ำหนักเบา และมีความยืดหยุ่น
- เทคโนโลยี Air Cushion ช่วยกระจายแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความล้าของเท้า
- ระบบ Wave หรือ Gel ช่วยรองรับแรงกระแทกและส่งคืนพลังงานในการขับเคลื่อน
- ระบบ Boost หรือ Energy Return ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่งด้วยการส่งคืนพลังงาน
4. พิจารณาการระบายอากาศและวัสดุส่วนบน
รูปแบบการออกแบบและความสะดวกในการใช้งานเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเลือกรองเท้าวิ่ง
- วัสดุตาข่าย (Mesh) ช่วยระบายอากาศได้ดี ลดการสะสมความร้อนและความชื้น
- เทคโนโลยี Flyknit หรือ Primeknit ให้ความกระชับที่เหมาะสม มีน้ำหนักเบา และระบายอากาศได้เยี่ยม
- วัสดุสังเคราะห์คุณภาพสูง ทนทานต่อการใช้งาน ทำความสะอาดง่าย และรักษาสภาพได้นาน
- ระบบเชือกผูก ควรมีการออกแบบที่ปรับความกระชับได้ดี ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป
5. ตรวจสอบพื้นรองเท้าและการยึดเกาะ
ส่วนพื้นรองเท้าและการยึดเกาะมีผลต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการวิ่ง
- ยางคุณภาพสูง ทนทานต่อการสึกหรอ ให้การยึดเกาะที่ดีบนพื้นผิวต่างๆ
- รูปแบบดอกยาง ออกแบบให้เหมาะกับพื้นผิวที่วิ่ง เช่น ลู่วิ่ง ถนน หรือเส้นทางวิ่งเทรล
- ความหนาของพื้น สมดุลระหว่างการรองรับแรงกระแทกและความรู้สึกพื้นผิว
- ความยืดหยุ่น ช่วยให้การเคลื่อนไหวของเท้าเป็นธรรมชาติ ไม่จำกัดการเคลื่อนไหว
5 รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดี ราคาไม่เกิน 5,000 บาท คุ้มค่าและมีคุณภาพ
รองเท้าวิ่งต่อไปนี้ ได้รับความนิยมและมาจากหลากหลายยี่ห้อที่มีคุณภาพ โดยยี่ห้อไหนจะตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด สามารถเลือกได้จากข้อมูลดังต่อไปนี้
No.1 WARRIX รองเท้าวิ่ง WAVE 1.0 Uncaged Running Collection

ราคาอ้างอิง
990 บาท
ราคาต่ำ
น้ำหนักเบา เทคโนโลยี Flyknit ระบายอากาศเยี่ยม ทนทานและสะดวกสบาย
- เทคโนโลยี Flyknit ถักทอร่วมกับเส้นใยโพลีเอสเตอร์ 100% ทำให้น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง
- โครงสร้างแบบ Sock-like กระชับตามรูปเท้า สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม
- เอาท์โซลผลิตจาก Phylon ที่มีความยืดหยุ่นและทนทาน พร้อมยึดเกาะพื้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- มี 4 สีให้เลือก: ขาว, ดำ, ชมพู, เทา เหมาะกับทุกสไตล์การแต่งกาย
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
วัสดุส่วนบน | Flyknit + Polyester 100% |
ระบบรองรับ | Phylon Midsole |
น้ำหนัก | เบามาก เหมาะกับการวิ่งยาว |
การระบายอากาศ | ดีเยี่ยม |
No.2 MIZUNO Running Wave Inspire 17

ราคาอ้างอิง
3,950 บาท
ราคาสูง
เทคโนโลยี Mizuno Wave รองรับเท้าแบน ระบบรองรับแรงกระแทกดีเยี่ยม
- เทคโนโลยี Mizuno Enerzy โฟมสูตรพิเศษที่มีความนุ่มเด้งและเบาสบาย ผสานรวมกับ Mizuno Wave
- Double Fan-Shaped Wave นวัตกรรมแผ่นเวฟออกแบบสำหรับคนเท้าแบน ช่วยจัดระเบียบรูปเท้าให้เป็นธรรมชาติ
- Engineered Mesh ส่วนบนเป็นผ้าตาข่าย ให้ความกระชับและระบายอากาศได้ดีเยี่ยม
- X10 พื้นรองเท้าเสริมคาร์บอน เพื่อรองรับแรงกระแทกสูง เสริมความทนทานและมั่นคง
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
เทคโนโลยีหลัก | Mizuno Wave + Enerzy |
น้ำหนัก | 315 กรัม |
Stack Height | 24mm/36mm |
เหมาะสำหรับ | เท้าแบน, การวิ่งระยะยาว |
No.3 Nike Air Zoom Rival Fly 3

ราคาอ้างอิง
4,251 บาท
ราคาสูง
น้ำหนักเบา ระบายอากาศสบาย เทคโนโลยี Air Zoom ตอบสนองเร็ว
- เทคโนโลยี Air Zoom ในส่วนหน้าเท้า ช่วยเพิ่มการตอบสนองและส่งคืนพลังงานในการวิ่ง
- วัสดุส่วนบนผลิตจากผ้าตาข่ายน้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม สบายตลอดการวิ่ง
- พื้นรองเท้ายางคุณภาพสูง ทนทานและยึดเกาะได้ดีบนพื้นผิวต่างๆ
- ดีไซน์สีดำขาว คลาสสิก เข้ากับทุกชุดออกกำลังกาย
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
เทคโนโลยีหลัก | Air Zoom |
วัสดุส่วนบน | Mesh น้ำหนักเบา |
การใช้งาน | วิ่งเทมโป, การแข่งขัน |
สี | Black/White |
No.4 Adidas Ultraboost 20 Summer RDY

ราคาอ้างอิง
2,080 บาท
ราคาปานกลาง
เทคโนโลยี Boost ระบายอากาศเย็น เหมาะกับอากาศร้อน
- เทคโนโลยี Boost Midsole ให้การส่งคืนพลังงานที่ดีเยี่ยม ช่วยลดความล้าในการวิ่งระยะยาว
- SUMMER.RDY Material วัสดุพิเศษที่ช่วยระบายอากาศและความร้อน เหมาะกับการวิ่งในอากาศร้อน
- Primeknit Monofilament Upper ให้ความกระชับที่เหมาะสม และมีหน้าต่างโปร่งใสที่ทำให้เห็นถุงเท้าสีสด
- Continental Rubber Outsole ยางคุณภาพสูงจากยี่ห้อยางรถยนต์ชื่อดัง ยึดเกาะได้ดีเยี่ยม
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
เทคโนโลยีหลัก | Boost + SUMMER.RDY |
น้ำหนัก | 312 กรัม (UK 8.5) |
Drop | 10mm |
วัสดุพื้น | Continental Rubber |
No.5 Salomon Predict SOC 2

ราคาอ้างอิง
1,535 บาท
ราคาต่ำ
เทคโนโลยี Anatomical Decoupling การวิ่งเทรลและถนน ทนทานพิเศษ
- เทคโนโลยี Anatomical Decoupling ช่วยให้การเคลื่อนไหวของเท้าเป็นธรรมชาติ ลดการบาดเจ็บ
- วัสดุส่วนบนทนทาน เหมาะสำหรับการวิ่งทั้งบนถนนและเส้นทางเทรล
- ระบบเชือกผูกแบบ Quicklace ปรับความกระชับได้รวดเร็ว สะดวกในการใช้งาน
- สี Trooper/Night Sky ดูดีและเท่ห์ เหมาะกับนักวิ่งที่ชอบสีเข้ม
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
เทคโนโลยีหลัก | Anatomical Decoupling |
การใช้งาน | วิ่งถนน + เทรล |
ระบบเชือก | Quicklace |
สี | Trooper/Night Sky |
วิธีการใช้งานรองเท้าวิ่งอย่างถูกต้องและปลอดภัย
การใช้งานรองเท้าวิ่งอย่างถูกต้องจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยต่อร่างกาย ดังนี้
1. ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมก่อนวิ่ง
ก่อนใช้รองเท้าวิ่ง ควรเตรียมความพร้อมของร่างกายและอุปกรณ์ เพื่อลดความเสียหายและเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง
- อุ่นร่างกาย ยืดเส้นยืดสาย และเตรียมความพร้อมของกล้ามเนื้อก่อนวิ่งทุกครั้ง
- เลือกถุงเท้าที่เหมาะสม ควรใช้ถุงเท้าสำหรับออกกำลังกายที่ระบายอากาศได้ดี ลดการเกิดแผลพุพอง
- ตรวจสอบเชือกรองเท้า ให้แน่ใจว่าผูกแน่นพอดี ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป
- เลือกเส้นทางที่เหมาะสม เริ่มจากเส้นทางง่ายๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความยากขึ้น
2. การเลือกรองเท้าให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับประเภทการวิ่งจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- การวิ่งระยะสั้น ควรใช้รองเท้าน้ำหนักเบา มีการตอบสนองที่รวดเร็ว
- การวิ่งระยะยาว ควรใช้รองเท้าที่มีการรองรับแรงกระแทกดี มีความทนทาน
- การวิ่งเทรล ควรใช้รองเท้าที่มีดอกยางหยาบ ยึดเกาะได้ดีบนพื้นผิวไม่เรียบ
- การวิ่งบนลู่ ใช้รองเท้าวิ่งทั่วไปที่มีพื้นเรียบ เน้นความสบายและการระบายอากาศ
3. เทคนิคการวิ่งที่ถูกต้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
การใช้เทคนิคที่ถูกต้องจะช่วยให้การวิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสียหายต่อร่างกาย
- ท่าทางการวิ่ง เก็บหลังตรง หน้าอกผุด มองไปข้างหน้า แขนแกว่งเป็นธรรมชาติ
- การก้าวเท้า ควรเท้าแตะพื้นใต้ศูนย์โน้มถ่วงของร่างกาย ไม่ก้าวยาวเกินไป
- จังหวะการหายใจ ฝึกการหายใจแบบสม่ำเสมอ หายใจเข้าทางจมูก ออกทางปาก
- การเพิ่มระยะทาง เพิ่มระยะทางทีละน้อย ไม่เกิน 10% ต่อสัปดาห์
4. การดูแลรักษาและยืดอายุการใช้งานรองเท้าวิ่ง
การดูแลรักษาอย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของรองเท้าวิ่ง
- ทำความสะอาดสม่ำเสมอ ล้างด้วยน้ำเปล่าและสบู่อ่อนๆ หลังใช้งาน ไม่ควรใช้น้ำร้อนหรือสารเคมี
- ตากให้แห้งธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการตากแดดโดยตรงหรือใช้เครื่องอบ ควรตากในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเท
- ใช้งานสลับกัน หากวิ่งบ่อย ควรมีรองเท้าสำรอง 2-3 คู่ เพื่อให้รองเท้าแต่ละคู่มีเวลาพักผ่อน
- เก็บในที่เหมาะสม เก็บในที่แห้ง อากาศถ่ายเทได้ดี หลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดดโดยตรง
- เปลี่ยนเมื่อสึกหรอ เปลี่ยนรองเท้าใหม่เมื่อวิ่งไปแล้วประมาณ 500-800 กิโลเมตร หรือเมื่อพื้นรองเท้าสึกหรอมาก
สรุป: รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับคุณ
รองเท้าวิ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่ง ลดการบาดเจ็บ และให้ความสบายในการออกกำลังกาย เหมาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับตั้งแต่มือใหม่จนถึงนักกีฬา จากการรีวิว 5 ยี่ห้อยอดนิยม เราสามารถแบ่งตามความเหมาะสมได้ดังนี้
- งบประมาณต่ำ (ต่ำกว่า 2,000 บาท): WARRIX WAVE 1.0 และ Salomon Predict SOC 2 เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า มีคุณสมบัติพื้นฐานครบถ้วน ราคาไม่แพง
- งบประมาณปานกลาง (2,000-3,000 บาท): Adidas Ultraboost 20 Summer RDY เป็นตัวเลือกที่มีเทคโนโลยีทันสมัย เหมาะกับการวิ่งในอากาศร้อน
- งบประมาณสูง (3,000-5,000 บาท): MIZUNO Wave Inspire 17 และ Nike Air Zoom Rival Fly 3 มีคุณภาพเยี่ยม เทคโนโลยีล้ำสมัย เหมาะสำหรับนักวิ่งจริงจัง
การเลือกซื้อควรพิจารณาตามความต้องการส่วนตัว ลักษณะการวิ่ง และงบประมาณ โดยสรุปปัจจัยสำคัญได้ดังนี้
- ประเภทการวิ่ง: หากวิ่งระยะยาว ควรเลือกรองเท้าที่มีการรองรับแรงกระแทกดี หากวิ่งเร็ว ควรเลือกรองเท้าน้ำหนักเบา
- รูปเท้าและการเดิน: ควรเลือกรองเท้าที่เหมาะกับลักษณะเท้าของคุณ เช่น เท้าแบนควรเลือก MIZUNO Wave Inspire 17
- เทคโนโลยี: เทคโนโลยีต่างๆ เช่น Boost, Air Zoom, Wave ล้วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่ง
- วัสดุและการระบายอากาศ: หากวิ่งในอากาศร้อน ควรเลือกรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี
- ความทนทาน: ตรวจสอบคุณภาพวัสดุและการรับประกันให้ชัดเจน
ไม่ว่าคุณจะเลือกยี่ห้อใด รองเท้าวิ่งที่ดีจะช่วยให้การออกกำลังกายสนุกและปลอดภัยมากขึ้น ทำให้คุณมั่นใจในการวิ่งได้ทุกเส้นทาง โดยไม่ต้องกังวลกับการบาดเจ็บหรือความไม่สบาย