น้ำมันปลาเป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ใส่ใจสุขภาพ ต้องการบำรุงสมอง ดูแลหัวใจ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ด้วยสารสำคัญ EPA และ DHA ที่มีคุณประโยชน์หลากหลาย ช่วยลดการอักเสบ บำรุงระบบไหลเวียนเลือด และส่งเสริมการทำงานของสมอง
น้ำมันปลามีความสำคัญต่อการบำรุงรักษาสุขภาพโดยรวม สามารถช่วยลดความดันโลหิต ลดระดับไขมันในเลือด บำรุงสายตา และชะลอความเสื่อมของสมอง โดยเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และที่สำคัญคือมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ ตั้งแต่ระดับราคาประหยัดไปจนถึงคุณภาพพรีเมียม
บทความนี้ เราได้รวบรวม วิธีการเลือกน้ำมันปลา ให้เหมาะกับความต้องการและสุขภาพของคุณ และ 10 แบรนด์น้ำมันปลายี่ห้อยอดนิยม พร้อมคุณสมบัติเด่นต่างๆ ที่น่าสนใจมาแนะนำ เพื่อให้คุณเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด

วิธีการเลือกน้ำมันปลา
การเลือกน้ำมันปลาให้เหมาะกับความต้องการ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. พิจารณาปริมาณ EPA และ DHA
ปริมาณของ EPA และ DHA เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของน้ำมันปลา การเลือกรุ่นที่มีปริมาณเหมาะสมจะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
- EPA 100-200 มก. เหมาะสำหรับการบำรุงหัวใจ ลดการอักเสบ และควบคุมระดับไขมัน
- DHA 100-500 มก. เหมาะสำหรับบำรุงสมอง เสริมความจำ และบำรุงสายตา
- อัตราส่วน EPA:DHA ควรพิจารณาตามความต้องการ เช่น 2:1 สำหรับหัวใจ หรือ 1:2 สำหรับสมอง
2. ตรวจสอบแหล่งที่มาและคุณภาพ
แหล่งที่มาของน้ำมันปลามีผลต่อคุณภาพและความปลอดภัย โดยควรพิจารณาดังนี้
- ปลาทะเลน้ำลึก เป็นแหล่งที่ดีที่สุด มีสารปนเปื้อนน้อย
- น้ำมันปลาแซลมอน มีคุณภาพสูง รสชาติไม่คาว
- การสกัดแบบเย็น ช่วยรักษาคุณค่าสารอาหารได้ดีกว่า
- การทดสอบโลหะหนัก ควรผ่านการทดสอบปรอท แคดเมียม ตะกั่ว สารหนู
3. พิจารณาความปลอดภัยและการรับรอง
ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับอาหารเสริม
- ใบอนุญาต อย. ตรวจสอบให้มีใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
- มาตรฐานสากล เช่น GMP, HACCP, ISO เพื่อประกันคุณภาพ
- การรับรอง Halal สำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นใจด้านศาสนา
- ปราศจากสารปนเปื้อน ไม่มีโลหะหนักและสารเคมีตกค้าง
4. พิจารณารูปแบบและความสะดวก
รูปแบบผลิตภัณฑ์มีผลต่อการยอมรับและการใช้งาน
- แคปซูลนิ่ม กลืนง่าย ไม่มีรสชาติ เหมาะสำหรับคนไม่ชอบกลิ่นปลา
- แคปซูลธรรมดา ราคาประหยัด เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
- สูตรไร้กลิ่น (Odourless) สำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นคาวของปลา
- ขนาดบรรจุ เลือกตามการใช้งาน เช่น 30, 60, 75, 100 เม็ด
5. ตรวจสอบส่วนผสมเสริมและวิตามิน
ส่วนผสมเสริมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณประโยชน์
- วิตามินอี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมของ EPA และ DHA
- แอสตาแซนธิน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ บำรุงสายตา
- โคเอนไซม์ Q10 เสริมการทำงานของหัวใจ
- วิตามินดี ช่วยดูดซึมแคลเซียม เสริมสร้างกระดูก
10 แบรนด์น้ำมันปลายี่ห้อไหนดี บำรุงสมอง ดูแลหัวใจ คุณภาพเยี่ยม
ผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาต่อไปนี้ ได้รับความนิยมและมาจากหลากหลายแบรนด์ที่มีคุณภาพ โดยแบรนด์ไหนจะตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด สามารถเลือกได้จากข้อมูลดังต่อไปนี้
No.1 Blackmores Fish Oil 1000 mg (80 แคปซูล) แบลคมอร์ส ฟิช ออย

ราคาอ้างอิง
740 บาท
ราคาสูง
แบรนด์ออสเตรเลียระดับพรีเมียม คุณภาพเยี่ยม เชื่อถือได้
- แบรนด์ชั้นนำจากออสเตรเลีย มีชื่อเสียงด้านคุณภาพระดับโลก
- น้ำมันปลาบริสุทธิ์ 1000 มก. ต่อแคปซูล
- ผ่านการทดสอบมาตรฐานสากล ปลอดสารปนเปื้อน
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพระดับพรีเมียม
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
น้ำมันปลา | 1000 มก./แคปซูล |
จำนวนเม็ด | 80 แคปซูล |
ประเทศต้นกำเนิด | ออสเตรเลีย |
เลขอย. | 10-3-08338-1-0005 |
No.2 VISTRA Salmon Fish Oil 1000 mg Plus Vitamin E (100 เม็ด)

ราคาอ้างอิง
313 บาท
ราคาปานกลาง
น้ำมันปลาแซลมอน DHA 120 มก. EPA 180 มก. คุณภาพดี ราคาเหมาะสม
- น้ำมันปลาแซลมอนคุณภาพสูง 1000 มก. ต่อเม็ด
- DHA 120 มก. EPA 180 มก. โอเมก้า-3 รวม 350 มก.
- วิตามินอี 10 หน่วยสากล ป้องกันการเสื่อมของโอเมก้า-3
- แบรนด์ไทยที่เชื่อถือได้ มีจำหน่ายทั่วไป
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
น้ำมันปลาแซลมอน | 1000 มก./เม็ด |
DHA | 120 มก./เม็ด |
EPA | 180 มก./เม็ด |
วิตามินอี | 10 หน่วยสากล |
เลขอย. | 13-1-00449-1-0238 |
No.3 Dr. PONG Daily Omega 3 Odourless Fish Oil 1000 mg plus Vitamin E

ราคาอ้างอิง
1,000 บาท
ราคาต่ำมาก
คุ้มค่าที่สุด โอเมก้า-3 350 มก. สูตรไร้กลิ่น
- ราคาโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ คุ้มค่าเป็นอันดับ 1
- สูตรไร้กลิ่น (Odourless) ไม่มีกลิ่นคาว
- DHA 120 มก. EPA 180 มง. โอเมก้า-3 รวม 350 มก.
- วิตามินอี 15 หน่วยสากล ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
น้ำมันปลา | 1000 มก./แคปซูล |
DHA | 120 มก./แคปซูล |
EPA | 180 มก./แคปซูล |
วิตามินอี | 15 หน่วยสากล |
เลขอย. | 13-1-00449-5-0195 |
No.4 Bewel Salmon Fish Oil 1000 mg Plus Vitamin E (30 เม็ด)

ราคาอ้างอิง
84 บาท
ราคาต่ำ
ปราศจากโลหะหนัก ราคาประหยัด เหมาะสำหรับทดลอง
- ปราศจากโลหะหนักและสารปนเปื้อน มีความสะอาดสูง
- น้ำมันปลาแซลมอน 1000 มก. มี EPA และ DHA สมดุล
- ราคาถูกที่สุดในกลุ่มน้ำมันปลาแซลมอน
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองใช้ครั้งแรก
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
น้ำมันปลาแซลมอน | 1000 มก./แคปซูล |
จำนวนเม็ด | 30 แคปซูล |
ข้อควรระวัง | มีส่วนผสมปลาทะเล |
เลขอย. | 1310044950008 |
No.5 MEGA We Care MAXX OMEGA (60’s) แมกซ์ โอเมก้า 3

ราคาอ้างอิง
665 บาท
ราคาปานกลาง
DHA 250 มก. EPA 350 มก. เข้มข้นสูง แบรนด์ไทยคุณภาพ
- DHA สูงถึง 250 มก. EPA 350 มก. ต่อแคปซูล
- น้ำมันปลา 1000 มก. คุณภาพสูง
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงสมองและหัวใจ
- แบรนด์ไทยที่มีมาตรฐานการผลิตระดับสากล
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
น้ำมันปลา | 1000 มก./แคปซูล |
DHA | 250 มก./แคปซูล |
EPA | 350 มก./แคปซูล |
จำนวนเม็ด | 60 แคปซูล |
เลขอย. | 11-1-32732-1-0095 |
No.6 Zeavita ฟิชออยล์ 7.7X DHA Omega3 สมองและสายตา (60เม็ด)

ราคาอ้างอิง
1,099 บาท
ราคาปานกลาง
หัวปลาทูน่า 100% DHA 125 มก. พลัสวิตามินบีรวม ลูทีน ซีแซนทีน
- น้ำมันปลาสกัดเย็นจากหัวปลาทูน่าทะเลน้ำลึก นำเข้าจากเยอรมนี
- DHA 125 มก. EPA 25 มก. พร้อมวิตามินบีรวม
- ลูทีนและซีแซนทีนบำรุงสายตา
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
DHA | 125 มก./แคปซูล |
EPA | 25 มก./แคปซูล |
แหล่งที่มา | หัวปลาทูน่าเยอรมนี |
วิตามินเสริม | B12, B6, B2, E |
เลขอย. | 11-1-13164-5-0015 |
No.7 NBL Odourless Fish Oil 1000 MG OMEGA-3 (30 Capsules)

ราคาอ้างอิง
200 บาท
ราคาต่ำมาก
น้ำมันปลาสูตรไร้กลิ่น แบรนด์ออสเตรเลีย ราคาโปรโมชั่น
- แบรนด์จากออสเตรเลีย ผลิตตามมาตรฐานสากล
- สูตรไร้กลิ่น (Odourless) ไม่มีกลิ่นคาวของปลา
- ปราศจากสารปนเปื้อนและโลหะหนัก
- โปรโมชั่นพิเศษ ราคาถูกมาก เหมาะสำหรับทดลอง
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
น้ำมันปลา | 1000 มก./แคปซูล |
จำนวนเม็ด | 30 แคปซูล |
ประเทศต้นกำเนิด | ออสเตรเลีย |
เลขอย. | 10-3-36959-5-0094 |
No.8 VIDA Fish Oil วีด้า ฟิชออยล์ นิวซีแลนด์ (ขนาด 1,000 มก. บรรจุ 30 แคปซูล)

ราคาอ้างอิง
239 บาท
ราคาต่ำ
น้ำมันปลาบริสุทธิ์จากนิวซีแลนด์ ราคาคุ้มค่า คะแนนรีวิวสูง
- น้ำมันปลาบริสุทธิ์ 1,000 มก. จากนิวซีแลนด์
- อุดมด้วย Omega-3, EPA และ DHA
- เสริมวิตามินอี เพื่อการดูดซึมที่ดีขึ้น
- ได้รับอนุญาตจาก อย. เลขที่ 11-1-14463-6-0001
- ราคาประหยัด เหมาะสำหรับการทานต่อเนื่อง
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
น้ำมันปลา | 1,000 มก./แคปซูล |
ส่วนผสมหลัก | Omega-3, EPA, DHA, วิตามินอี |
จำนวนเม็ด | 30 แคปซูล |
เลขอย. | 11-1-14463-6-0001 |
No.9 Biocap Fish Oil ไบโอแคป น้ำมันปลา โอเมก้า 3

ราคาอ้างอิง
199 บาท
ราคาต่ำ
EPA 90 มก. DHA 60 มก. คุ้มค่ามาก
- น้ำมันปลา 500 มก. EPA 90 มก. DHA 60 มก.
- วิตามินอี 1.8 มก. ป้องกันการเสื่อมของโอเมก้า-3
- แบรนด์ไทยที่ได้รับความนิยม ราคาประหยัด
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
น้ำมันปลา | 500 มก./แคปซูล |
EPA | 90 มก./แคปซูล |
DHA | 60 มก./แคปซูล |
วิตามินอี | 1.8 มก./แคปซูล |
เลขอย. | 10-1-03856-5-0234 |
No.10 Giffarine น้ำมันปลา 4 เอ็กซ์ (ขนาด 1,000 มก. บรรจุ 60 แคปซูล)

ราคาอ้างอิง
1,060 บาท
ราคาสูง
DHA สูงสุด 500 มก. EPA 100 มก. แบรนด์ไทยระดับพรีเมียม
- DHA เข้มข้นสูงสุด 500 มก. ต่อแคปซูล
- EPA 100 มก. เหมาะสำหรับบำรุงสมองเป็นพิเศษ
- น้ำมันปลา 1000 มก. คุณภาพพรีเมียม
- แบรนด์กิฟฟารีนที่มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
น้ำมันปลา | 1000 มก./แคปซูล |
DHA | 500 มก./แคปซูล |
EPA | 100 มก./แคปซูล |
จำนวนเม็ด | 60 แคปซูล |
เลขอย. | 13-1-03440-1-0154 |
วิธีการทานน้ำมันปลาอย่างถูกต้องและปลอดภัย
การทานน้ำมันปลาอย่างถูกต้องจะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดและปลอดภัย ดังนี้
1. ปริมาณการทานที่เหมาะสม
การทานน้ำมันปลาในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ประโยชน์เต็มที่
- ผู้ใหญ่ทั่วไป ทานวันละ 1-2 แคปซูล พร้อมมื้ออาหาร
- ผู้ที่ต้องการบำรุงสมอง ทานวันละ 2-3 แคปซูล แบ่งทานเช้า-เย็น
- ผู้ที่มีปัญหาหัวใจ ปรึกษาแพทย์ก่อน อาจต้องทานสูงกว่าปกติ
- เด็กและหญิงตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน
2. เวลาที่เหมาะสมในการทาน
เวลาการทานมีผลต่อการดูดซึมและประสิทธิภาพ
- พร้อมมื้ออาหาร เป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะไขมันจากอาหารช่วยการดูดซึม
- หลังอาหาร หากมีอาการคลื่นไส้ ควรทานหลังอาหาร 30 นาที
- แบ่งทานวันละ 2 ครั้ง หากทานวันละหลายเม็ด ควรแบ่งทานเช้าและเย็น
- ทานสม่ำเสมอ ทานในเวลาเดิมทุกวันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
3. ข้อควรระวังและผลข้างเคียง
การทานน้ำมันปลาอาจมีผลข้างเคียงในบางคน
- คลื่นไส้ หากเกิดขึ้น ควรทานพร้อมอาหารหรือลดปริมาณ
- กลิ่นปาก เลือกสูตรไร้กลิ่น (Odourless) หรือทานพร้อมอาหาร
- เลือดออกง่าย หยุดทานก่อนผ่าตัด 1-2 สัปดาห์
- แพ้ปลา ไม่ควรทาน หรือเลือกน้ำมันสาหร่ายแทน
4. การเก็บรักษาที่ถูกต้อง
การเก็บรักษาที่ถูกต้องจะช่วยรักษาคุณภาพของน้ำมันปลา
- เก็บในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้น
- ปิดฝาให้สนิท ป้องกันอากาศเข้า ทำให้น้ำมันเสื่อม
- ตู้เย็น สำหรับสูตรที่ไม่มีสารกันบูด
- ตรวจสอบวันหมดอายุ ไม่ควรใช้เกินวันที่กำหนด
สรุป: น้ำมันปลายี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับคุณ
น้ำมันปลาเป็นอาหารเสริมที่จำเป็น ช่วยบำรุงสมอง ดูแลหัวใจ และเสริมสร้างสุขภาพโดยรวม เหมาะสำหรับคนทุกวัยที่ใส่ใจสุขภาพหรือต้องการป้องกันโรคเรื้อรัง จากการรีวิว 10 แบรนด์ยอดนิยม เราสามารถแบ่งตามความเหมาะสมได้ดังนี้
- งบประมาณต่ำ (ต่ำกว่า 200 บาท): Bewel เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด มีสารสำคัญครบถ้วน ราคาประหยัด
- งบประมาณปานกลาง (200-700 บาท): VISTRA, Biocap และ MEGA We Care เป็นตัวเลือกที่มี EPA และ DHA เข้มข้นกว่า คุณภาพดี และแบรนด์เชื่อถือได้
- งบประมาณสูง (มากกว่า 700 บาท): Blackmores, Zeavita และ Giffarine มีคุณภาพพรีเมียม สารสำคัญเข้มข้นสูง มาตรฐานการผลิตระดับสากล และมักมีส่วนผสมเสริมพิเศษ
การเลือกซื้อควรพิจารณาตามความต้องการด้านสุขภาพ อายุ และงบประมาณ โดยสรุปปัจจัยสำคัญได้ดังนี้
- ปริมาณ EPA และ DHA: หากต้องการบำรุงสมอง ควรเลือกที่มี DHA สูง หากต้องการดูแลหัวใจ ควรเลือกที่มี EPA สูง
- แหล่งที่มาของน้ำมัน: ควรเลือกจากปลาทะเลน้ำลึกหรือปลาแซลมอน เพื่อความปลอดภัยและคุณภาพ
- ความปลอดภัย: ใบอนุญาต อย. การทดสอบโลหะหนัก และมาตรฐานการผลิต ล้วนช่วยประกันคุณภาพ
- รูปแบบผลิตภัณฑ์: หากไม่ชอบกลิ่นปลา ควรเลือกสูตรไร้กลิ่น (Odourless) หรือแคปซูลที่เคลือบพิเศษ
- ความคุ้มค่า: ตรวจสอบราคาต่อเม็ดและปริมาณสารสำคัญ เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าที่แท้จริง
ไม่ว่าคุณจะเลือกแบรนด์ใด น้ำมันปลาจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและป้องกันโรคได้ดีขึ้น ทำให้มั่นใจในการดูแลสุขภาพได้ทุกวัน โดยไม่ต้องกังวลกับการขาดสารอาหารสำคัญหรือปัญหาสุขภาพในอนาคต สิ่งสำคัญคือการทานอย่างสม่ำเสมอและเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณ